Programmer ชื่อ ถาวร ศรีเสนพิลา

หลังจากได้เปิดตัวเว็บแห่งนี้แล้วสองปี ผมก็พบว่า หน้าตาและรูปแบบต่างๆ ยังดูไม่เป็นทางการ อีกทั้งระบบบริหารจัดการก็ใช้งานยากมาก เลยลงมือเขียนใหม่ทั้งหมดด้วย Yii Framework + Tuktuk CSS Framework ครับ ซึ่งวันเวลาผ่านไป 2 วันละ ก็เลยเอามาอัพเดตให้ได้ชมกัน หน้าลูกค้า หน้าแรก หน้า ติดต่อเรา หน้า เกี่ยวกับเรา หน้าการชำระเงิน

แม่: เป็นแม่ค้าขายก๋วยจั้บ ให้เยอะ อร่อย ราคาถูก ลูกค้าประจำเพียบ พ่อ: ทหารยศ สิบเอก ผู้รักงานทำโต้ะ เตียง เก้าอี้ เน้นคุณภาพเยี่ยม ผม: เขียนโปรแกรม หนังสือ คุณภาพดี ราคาถูก ใส่ใจทุกรายละเอียด สิ่งที่ผมเป็น มาจากแม่ส่วนหนึ่ง คือการนึกถึงคนกิน (ผู้บริโภค) เขาต้องอิ่ม  และมาจากพ่ออีกส่วนหนึ่ง คือ ทำอะไรต้องทำให้ดีที่สุด ไร้ที่ติ หนังสือทุกเล่มที่ผมเขียนจึงได้บรรจงตั้งแต่การคิดโค้ด ที่สั้น เข้าใจง่าย และกระชับที่สุด แถมยังพิมพ์สีทุกหน้า การเข้าเล่มที่ใช้กาวคุณภาพสูง เครื่องพิมพ์อย่างดี หมึกของแท้ และทุกๆ รายละเอียดต้องยอดเยี่ยม รวมไปจนถึงการจัดส่งก็ยังห่อถุงกันฝนให้อีกครับ ส่วนโปรแกรม ที่ผมทำทั้งหมดก็เขียนอย่างบรรจง ควบคุมการใช้หน่วยความจำทุกระเบียดนิ้ว การออกแบบหน้าจอให้ใช้งานง่าย โปรแกรมทำงานเร็ว ตอบโจทย์ตรงกับงานของลูกค้า และที่สำคัญคือ ราคาเพียงไม่กี่บาทเท่านั้น กำไรคือ "หัวใจคน" มิใช่เงินทอง หรือตัวเลขใดๆ ธุรกิจใดที่มุ่งเอาแต่เงิน โดยไม่คำนึงถึงผู้บริโภคเลย ธุรกิจนั้นอาจโตได้จริง แต่มีวันล่มสลายได้เช่นกัน ธุรกิจใดที่มุ่งการใส่ใจผู้บริโภค ไม่เน้นเงิน แม้ว่าธุรกิจนั้

วันนี้เป็นวันที่ดีความสุขที่สุ ด ในรอบปีเลยครับ ช่างโล่งเหลือเกิน เรื่องก็คือ ลูกค้ารายหนึ่งที่ผมพัฒนาระบบแบ บรายเดือนให้ (เดือนละ 50k) โทรมา บอกว่าไม่จ้างละ ต่อไปนี้จะไปจ้างคนอื่นพัฒนาให้ ผมได้ยินดังนั้น ถึงกับน้ำตาไหลออกมา ความปิติแผ่ซ่านไปทั่วห้อง จะได้มีเวลาสร้างสรรค์สุดยอดผลง าน โดยไม่ต้องทำตามความต้องการของใ ครแล้ว สร้างโปรดัก สร้างชิ้นงาน มันเป็นยิ่งกว่างานศิลปะ ทุกวันนี้เป็นคนกลัวเงินอย่างม าก ยิ่งใครมาจ้างทำโปรแกรมราคาหลัก แสน หรือจ้างเขียนแบบรายเดือน ยิ่งหวาดกลัว ไม่รับเลยซักงาน ไม่ใช่ว่าชีวิตไม่ได้อยากได้เงิ น แต่ทว่า ความฝัน มันยิ่งใหญ่กว่า ผมไม่เสียดายเลยที่รายได้หดหายไ ป หรือจะไม่ได้เงินจากการเขียนโปร แกรมให้ลูกค้า แต่ผมเสียดายหากว่า ชีวิตนี้ไปไม่ถึงความฝัน ผมฝันถึงสิ่งที่ยังไม่เคยเกิดขึ ้นมาก่อน จริงอยู่ ชีวิตต้องกินข้าว แต่ คนเราจะกินซักเท่าไหร่กันเชียว และวันนี้รายได้จากการขายโปรแกร มสำเร็จรูป และการขายหนังสือ ขายซีดี ก็อยู่ในระดับที่พอซื้อมาม่า ซื้อไข่มาทอดกินได้ ออกจากกับดักแห่ง ความโลภ จากนี้ไปจะได้ทุ่มเท สร้างสรรค์ผลงานสู่สังคม สูญเสียรายได้เดือนละแสน แลกกับ การได้

บทความวันนี้ผมก็จะมาเขียนเรื่องราวความฝันครับ หลายคนก็คงมีความฝัน และหลายคนก็ไม่เคยได้ทำมันเลย หรือทำแต่ก็แค่พอได้ทำ ยังออกแรงไม่สุดมือ ไม่ว่าจะด้วยอะไรก็ตาม ผมอยากบอกเล่าว่า ความฝัน มันคือสิ่งมีพลัง ยิ่งใหญ่ มากขนาดที่จะทำให้คนหนึ่งคนทุ่มเททั้งชีวิตให้กับมัน แม้ต้องแลกด้วยหนึ่งลมหายใจ แม้ว่าจะสำเร็จหรือไม่ก็ตาม ผมมีความฝันที่จะได้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และผมก็กำลังทำอยุ่ อย่างน้อยที่สุดก็สำเร็จไปแล้วหนึ่งอย่าง ยังเหลืออีกหนึ่งอย่าง ผมไม่เคยลังเล ที่จะทำความฝัน สร้างสรรค์สิ่งดีๆ ออกมาสู่สังคม "เงินทอง" ไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการเลย ชีวิตที่หลุดพ้นจากกับดักของ "เงิน" และความโลภ ทำให้สมองและความคิดผมได้ก้าวข้ามไปสู่ระดับที่เรียกว่า "อิสระภาพ" อยากทำอะไรก็ได้ ที่ไม่ต้องสนใจว่าจะได้เงินหรือไม่ หลายคน เอาแต่บอกว่าความฝันตัวเองมันเป็นไปไม่ได้ สุดท้ายแล้ว ไม่ได้ทำ หลายคน เอาแต่ยอมแพ้ให้อุปสรรค์ต่างๆ มากมาย ถอดใจกับปัญหาเดิมๆ หลายคน เฝ้ารอโอกาส แล้วก็โทษโชคชะตา สุดท้ายแล้วโอกาสก็ไม่เคยก้าวมาหาเลยสักครั้งเดียว หลายคน อยู่อย่างหวาดกลัว กลัวสารพัด

หลายคนก็คงมีโอกาสได้ซื้อหนังสือของผมไปอ่าน หรือหยิบอ่านตามแผงหนังสือ แน่นอนครับ มีหลายเล่ม มากมายที่ผมเขียนออกมานับสิบๆ เล่ม วันนี้นักเขียนผู้นี้จะมาบอกเล่า ความรู้สึกจากหัวใจ ให้ได้ฟังกัน แต่ละเล่มที่ผมเขียนนั้น ณ ขณะเวลาที่กำลังเขียน ผมเครียด บางทีก็รู้สึกท้อ เพราะกว่ามันจะออกมาได้แต่ละหน้า ต้องบรรจง เรียบเรียง และใช้โค้ดที่เข้าใจง่ายที่สุด เพื่อให้ผู้อ่านทำตามได้ โดยต้องผิดพลาดยากที่สุด แล้วความยากกว่านั้นคือ เนื้อหาที่ถ่ายทอดออกมานั้น จะต้องนำไปใช้ได้จริง กระชับ ไม่มีน้ำ ไม่เอาเปรียบคนอ่าน แน่นอนครับ ด้วยความที่ผมชอบอ่านหนังสือ ทำให้มีความรู้สึกว่าเราซื้อแล้ว ควรได้เนื้อหาที่ยอดเยี่ยม การเขียนที่ใส่ใจจากนักเขียน ไม่มุ่งเน้นกำไรจนเกินไป ทำให้ผมเป็นนักเขียน ที่เขียนทุกออกมา ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านพบมาจริงๆ บางเล่มก็เครียดมาก กว่าจะเขียนจบได้ปาเข้าไปครึ่งปี บางเล่มหนักมาก เป็นปีเลยก็มี ทุกเล่มนั้นผมใส่ใจในรายละเอียดอย่างมาก แม้กระทั่งสีตัวอักษร ขนาดตัวอักษร รูปแบบการจัดวาง แต่... เมื่อเขียนเสร็จและพิมพ์ออกมาเป็นเล่มๆ แล้ว ผมมีความสุขครับ และรู้สึกโล่งอย่างบอกไม่ถูก มันปิติมา