ว่าด้วยความฝัน

-
บทความวันนี้ผมก็จะมาเขียนเรื่องราวความฝันครับ หลายคนก็คงมีความฝัน และหลายคนก็ไม่เคยได้ทำมันเลย หรือทำแต่ก็แค่พอได้ทำ ยังออกแรงไม่สุดมือ

ไม่ว่าจะด้วยอะไรก็ตาม ผมอยากบอกเล่าว่า ความฝัน มันคือสิ่งมีพลัง ยิ่งใหญ่ มากขนาดที่จะทำให้คนหนึ่งคนทุ่มเททั้งชีวิตให้กับมัน แม้ต้องแลกด้วยหนึ่งลมหายใจ แม้ว่าจะสำเร็จหรือไม่ก็ตาม

ผมมีความฝันที่จะได้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และผมก็กำลังทำอยุ่ อย่างน้อยที่สุดก็สำเร็จไปแล้วหนึ่งอย่าง ยังเหลืออีกหนึ่งอย่าง

ผมไม่เคยลังเล ที่จะทำความฝัน สร้างสรรค์สิ่งดีๆ ออกมาสู่สังคม "เงินทอง" ไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการเลย ชีวิตที่หลุดพ้นจากกับดักของ "เงิน" และความโลภ ทำให้สมองและความคิดผมได้ก้าวข้ามไปสู่ระดับที่เรียกว่า "อิสระภาพ"

อยากทำอะไรก็ได้ ที่ไม่ต้องสนใจว่าจะได้เงินหรือไม่

หลายคน เอาแต่บอกว่าความฝันตัวเองมันเป็นไปไม่ได้ สุดท้ายแล้ว ไม่ได้ทำ
หลายคน เอาแต่ยอมแพ้ให้อุปสรรค์ต่างๆ มากมาย ถอดใจกับปัญหาเดิมๆ
หลายคน เฝ้ารอโอกาส แล้วก็โทษโชคชะตา สุดท้ายแล้วโอกาสก็ไม่เคยก้าวมาหาเลยสักครั้งเดียว
หลายคน อยู่อย่างหวาดกลัว กลัวสารพัด กลัวคนหัวเราะ กลัวไม่มีเงินใช้

ตลอดระยะเวลา 10 ปีบนหนทางที่ผมเดินมา ผมได้เปลี่ยนแปลงตัวเองในหลายๆ อย่าง แต่มีเพียงสิ่งเดียวที่ผมไม่เคยเปลี่ยนเลย คือหนทางที่จะเดินไปสู่ความฝัน

ทุกเช้า ผมมีเพียงคำถามเดียวให้กับตัวเอง คำถามเดียวเท่านั้นที่ผมถามมาแล้ว 10 ปีก็ยังถามอยู่ จนวันนี้
" หากวันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิต ผมจะเสียใจไหม กับเมื่อวาน "

คำตอบคือ "ไม่เสียใจ" เพราะเมื่อวานผมได้ทำความฝัน ได้ทำสิ่งต่างๆ มากมายที่อยากทำ และในวันนี้ก็เช่นกัน ผมได้ทำในสิ่งที่อยากทำ และจะทำให้ดี เพื่อให้ผมมี "คำตอบ" ไว้ให้พรุ่งนี้เช้า

ทำแต่ละวันให้ดีที่สุด เพราะพรุ่งนี้ผมต้องตอบคำถามตัวเอง ผมอยากตอบว่า "ไม่เสียใจ" ตลอดไปจนวันสุดท้ายของชีวิตตัวเอง

ความตาย ไม่มีใครรู้ว่าจะมาเมื่อไหร่ ไม่มีใครควบคุมได้
มีเพียงการตัดสินใจ การกระทำของตัวเอง ที่เราควบคุมได้ และทำได้เท่าที่อยากจะทำ

แล้วทำไมต้องรอ "วันพรุ่งนี้" เพราะบางทีแล้วมันอาจจะ "มาไม่ถึง" ก็ได้

เมื่อฝันแล้ว อย่าลังเล ให้ก้าวเดินไปจนสุดทางทำให้ได้ ไม่ว่าจะเจอกับอะไรก็ตาม อย่ายอมแพ้ อย่าหยุด แม้ว่าจะต้องแลกด้วยชีวิตที่มีอยู่

คุณจะนอนอยู่บ้าน หรือ มุ่งหน้าทำความฝัน ไม่ว่าทางไหนก็ตายเหมือนกัน ต่างกันเพียงว่า "คุณตาย ที่ตรงไหน"

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เรื่องราวชีวิตของ ถาวร ศรีเสนพิลา

-
อายุ 18 เขียนโปรแกรม Hello World เป็นครั้งแรกในชีวิต อายุ 19 แข่งทักษะเขียนโปรแกรม ตกรอบแรก ถูกโกงคะแนนแบบจะจะ อายุ 20 ทำงานในตำแหน่ง "Programmer" เงินเดือน 6,500 บาทถ้วน อายุ 21 ลาออก เป็น Programmer อิสระ และเรียนต่อ ปริญญาตรี อายุ 22 ปี เข้าทำงานตำแหน่ง Programmer ณ Business Plus เงินเดือน 25,000 บาท อายุ 23 ลาออก ก่อตั้ง PingpongSoft.com ด้วยเงินทุน 26,000 บาท ได้น้องปอน และน้องโฮปมาช่วยงาน อายุ 24 กิจการล่มสลาย หมดตัว กินมาม่าหักครึ่ง แต่ยังกัดฟันสู้ต่อ อายุ 25 ยืนหยัดเขียนโค้ดสุดกำลัง ศึกษาการตลาด การขายมากขึ้น อายุ 26 รับพนักงานคนแรกเข้า บริษัท (แฟนตัวเอง) อายุ 27 ออกรถ Honda City มือแรก อายุ 28 ทำยอดรายได้ทะลุเกิน 1,000,000 บาทได้ในเวลา 8 เดือน อายุ 29 เขียนหนังสือครบ 50 เล่มพอดี และเริ่มขายโปรแกรม jPOS อย่างจริงจังมากขึ้น อายุ 30 โปรแกรม jPOS เริ่มถูกพัฒนาเป็นรุ่นออนไลน์ อายุ 31 แต่งงานกับภรรยา สาวชาวเวียงจันทร์ประเทศลาว อายุ 32 มีลูกคนแรกน้องปิงปอง และโดนรถชนต้องผ่าตัดสมองเปิดกะโหลกข้างนึง อายุ 33 ซื้อบ้านหลังแรกเป็นของตัวเอง, ออกรถ Honda CRV, เปิดบริษัทที่ลาว, ซื้อ
อ่านเพิ่มเติม

นักสู้ต้นแบบของผม

-
รูปภาพ
ท่านมหาแซม ถือได้ว่าเป็นอีกคนหนึ่งที่เป็นต้นแบบ ในการต่อสู้ชีวิตของผมเลยทีเดียว ผมเองทีแรกก็ไม่ได้รู้จักโดยตรง จำได้ว่าตอนที่ผมซื้อ computer เครื่องแรกในชีวิตนั้น ทางร้านแถมโปรแกรมชื่อว่า "มหาหมอดู" มาให้เลย และผมกับน้อง ก็ดูดวง เล่นโปรแกรมนี้กันแบบไม่ยอมหลับเลยทีเดียว ผ่านไปหลายปี ผมเขียนเว็บได้ เขียนโปรแกรมเป็นก็เลยทำเว็บชื่อว่า ubonit.com ออกแนว ทำวีดีโอ ถ่ายทอดวิชาความรู้ในการเขียนโปรแกรม แต่สุดท้ายก็ไม่รุ่ง โครงการนี้เจ้งไม่เป็นท่า เพราะมีสมาชิก 1 คนคือผมคนเดียว จากนั้นผ่านไปอีกซักพัก ก็ได้ทำเว็บชื่อ javathailand.com ขึ้นมาอีก โดยนำไอเดียเดิมมาทำอีกรอบ แต่คราวนี้แตกต่างออกไป เพราะมีระบบแต้มมาเกี่ยวข้อง เอามาเอาไปรุ่ง และก็รุ่งมากขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดวันหนึ่ง ท่านมหาแซม ก็มาเป็นสมาชิกเว็บผม และสมัครเป็น VIP Member จากจุดนั้นคือก้าวแรก ที่ทำให้เราได้คุยกัน วันเวลาผ่านไปราวๆ 2 ปีได้ ถ้าผมจำไม่ผิด วันหนึ่งผมก็พบ เฟสบุค ของท่านมหาแซม และผมก็แอดไป เพื่อขอเป็นเพื่อน ท่านก็ใจดี ตอบรับ และเราก็ได้คุยกันเรื่อยมา ทำให้ผมยิ่งมองเห็นความเป็นนักสู้ ความเป็นยอดโปรแกรมเมอร์ของท่าน อย่
อ่านเพิ่มเติม

เทคนิคการทำโปรแกรมขาย

-
วันนี้ผมแค่อยากเขียนบทความเล็กๆ น้อยๆ ไว้อ่าน ในวันหนึ่งที่มองย้อนกลับมา นี่อาจเป็นจุดเชื่อมต่อ ระหว่างการเดินทางของผม จากก้าวเล็กๆ ของผู้ชายธรรมดา ที่ไม่มีอะไร   การที่จะทำโปรแกรมขายนั้น เทคนิค ไม่มีอะไรมาก ผมไม่เคยได้อ่านตำรา หรือเข้าคอร์สอะไรกับใครทั้งสิ้น แต่ทั้งหมดผมเรียนรู้จากสนามจริง เจ็บจริง ลองผิด ลองถูก ทดสอบวิธีการต่างๆ มากมาย ล้มก็หลายครั้ง ในที่สุดก็ทำให้ค้นพบ ข้อเท็จจริงที่จะนำมาสรุปจากประสบการณ์เขียนโปรแกรมขายของผม ทั้งหมดกว่า 12 ปี   นี่ไม่ใช่การโอ้อวด แต่เป็นเพียงแค่การบอกเล่า ผ่านคนธรรมดา ที่เลี้ยงชีพด้วยการขายโปรแกรม ที่ตัวเองสร้าง อย่างน้อยผมก็อยู่แบบนี้มาได้ 7 ปีแล้ว โดยไม่ต้องทำงานประจำ รับเงินเดือนจากใคร และก็มีรายได้ต่อปี มากพอที่จะซื้อสิ่งต่างๆ ที่อยากได้ พร้อมกับเลี้ยงครอบครัวไม่ให้อดอยากได้ สรุปเทคนิคการเขียนโปรแกรมขาย ออกเป็นหัวข้อหลักๆ 3 ข้อดังนี้นะครับ (เผื่อใครอยากทำ ก็ลองนำไปใช้ดู)   1. สร้างโปรแกรม ที่ผู้คนรู้จักอยู่แล้ว ไม่ต้องไปคิดสร้างสิ่งใหม่ เพราะของใหม่ตีตลาดนาน คนไม่รู้จัก ต้องทำให้พวกเขาเข้าใจ กว่าจะถึงตรงนั้น ถ้าเงินไม่หนาพอคุ
อ่านเพิ่มเติม