ความตายไม่ได้เลือกเวลา
เมื่อคืนผมเดินทางกลับมาจากโคราช ไปคุยระบบบัญชีกับลูกค้า บ.ธนาแสงสแตนเลส เดินทางกลับมาตอนเย็น ๆ มาถึงอุบล 4 ทุ่มกว่า และไปทานข้าว กลับเข้าบ้านนั่งทำงานต่ออีก กว่าจะได้นอนปาเข้าไปตี 3 นิด ๆ ตื่นเช้ามาตอนตี 4.45 ผมก็เตรียมตัวออกเดินทางไปส่งแฟน
กลับจากส่งแฟน ผมมาถึงบ้านตอน 6 โมงโดยประมาณ อากาศหนาวมา ๆ ผมห่มผ้าห่มไปด้วย ขับมอเตอร์ไซค์ไปด้วย มาถึงบ้านกะว่าจะนอนซักงีบก็ไม่ได้นอนอีก เพราะต้องไปต้มโอวัลตินให้น้องสาวผมทาน และไปซื้อกับข้าวมาให้แม่
ในขณะนั้น มีคนมากมายมาที่บ้าน ลูกน้องแม่ผม (พนักงานร้านของแม่ผม) น้าแกเสียชีวิตซะแล้ว แบบฉับพลัน ด้วยอุบัติเหตุเส้นเลือดในสมองแตก ในเวลาไม่ถึงชั่วโมง คนปกติคนหนึ่งลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำและจะมานอน แต่รู้สึกปวดหัว เลยมีน ๆ จากนั้นเรียกรถ 1669 นำส่ง รพ. แล้วก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ผมรู้สึกสลดหดหุู่มาก เพราะต่อไปนี้แม่ก็ไม่มีลูกน้องที่มาทำงานแทนน้าคนนี้ได้ ดังนั้นต้องปิดกิจการไปอย่างไม่ต้องสงสัย นี่ล่ะหนอชีวิตคนเรา ยามยังมีชีวิตก็ไม่ได้ใช้เงิน เอาแต่ทำงานเก็บเงิน เพื่ออนาคตของลูกสาวแก แถมยังประหยัดอดออม ไม่ใช้จ่ายเกินตัว ผมก็ไม่เข้าใจว่าแล้วจะหาเงินมาทำไม เอาชีวิตไปผูกไว้กับเงิน สุดท้ายแล้วก็เอาไปด้วยไม่ได้เลยซักบาท
เหตุการณ์ครั้งนี้ ผมได้รู้เห็นคุณค่าของลมหายใจมากยิ่งขึ้น ได้รู้ว่าแต่ละวันที่เราลืมตาขึ้นมาดูโลกนั้น มันมีค่ามหาศาลจริง ๆ อย่าได้เอาไปทิ้งให้สุญเปล่า มันทำให้ผมมีกำลังใจขึ้นมาทันที จากที่กำลังเหนื่อยล้าอยากจะพักผ่อน อยากจะงีบ แต่ถ้าเราเอาแต่มัวสบาย อาจจะไม่มีวันได้ทำความฝันของตัวเองก็ได้
ชีวิตก็เหมือนเทียน ไม่มีใครรู้ได้เลยว่า เทียนจะดับลงเมื่อไหร่ มันอาจจะโดนลมพัดจนดับไปก่อนที่จะมอดไหม้ถึงน้ำตาเทียนหยดสุดท้ายก็เป็นไปได้ เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ยังมาไม่ถึง ไม่ใช่ว่ามันจะไม่มา เพียงแต่เราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ดังนั้นจึงไม่ควรประมาท
ผมตัดสินใจอาบน้ำ แต่งตัว มุ่งหน้าเข้า Office ของผมในเวลา 08.04 น. ทันทีและเริ่มทำการเปิดโปรแกรมเคลียร์งานลูกค้า เป้าหมายวันนี้คือเคลียร์ Form Manage Data ระบบ Clinic by VB.NET ให้เสร็จ และทำการ set ระบบเตรียมทำสุดยอดโปรเจกพลิกโลกกับน้องเล็ก และน้องกิต ในชื่อว่า "iTeacher"
ก่อนต้องตายจากโลกใบนี้ไป ก็อยากฝากผลงานชิ้นสำคัญเอาไว้ ต่อให้เก่งกาจฉลาดเกินคนสักแค่ไหน เมื่อตายไปแล้วก็เปล่าประโยชน์หากไม่ได้มีผลงานหลงเหลือเอาไว้ให้คนรุ่นหลัง จะรวยจนล้นก็เพียงคน คนหนึ่งเหมือนกัน มีหิว มีหนาว มีเจ็บ และต้องตาย แล้วเราจะมัวเอาชีวิตอันมีค่าไปทิ้งเปล่าในโลกจอกหลอกใบนี้ทำไม
สู้ ๆ แด่ฝันอันยิ่งใหญ่
กลับจากส่งแฟน ผมมาถึงบ้านตอน 6 โมงโดยประมาณ อากาศหนาวมา ๆ ผมห่มผ้าห่มไปด้วย ขับมอเตอร์ไซค์ไปด้วย มาถึงบ้านกะว่าจะนอนซักงีบก็ไม่ได้นอนอีก เพราะต้องไปต้มโอวัลตินให้น้องสาวผมทาน และไปซื้อกับข้าวมาให้แม่
ในขณะนั้น มีคนมากมายมาที่บ้าน ลูกน้องแม่ผม (พนักงานร้านของแม่ผม) น้าแกเสียชีวิตซะแล้ว แบบฉับพลัน ด้วยอุบัติเหตุเส้นเลือดในสมองแตก ในเวลาไม่ถึงชั่วโมง คนปกติคนหนึ่งลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำและจะมานอน แต่รู้สึกปวดหัว เลยมีน ๆ จากนั้นเรียกรถ 1669 นำส่ง รพ. แล้วก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ผมรู้สึกสลดหดหุู่มาก เพราะต่อไปนี้แม่ก็ไม่มีลูกน้องที่มาทำงานแทนน้าคนนี้ได้ ดังนั้นต้องปิดกิจการไปอย่างไม่ต้องสงสัย นี่ล่ะหนอชีวิตคนเรา ยามยังมีชีวิตก็ไม่ได้ใช้เงิน เอาแต่ทำงานเก็บเงิน เพื่ออนาคตของลูกสาวแก แถมยังประหยัดอดออม ไม่ใช้จ่ายเกินตัว ผมก็ไม่เข้าใจว่าแล้วจะหาเงินมาทำไม เอาชีวิตไปผูกไว้กับเงิน สุดท้ายแล้วก็เอาไปด้วยไม่ได้เลยซักบาท
เหตุการณ์ครั้งนี้ ผมได้รู้เห็นคุณค่าของลมหายใจมากยิ่งขึ้น ได้รู้ว่าแต่ละวันที่เราลืมตาขึ้นมาดูโลกนั้น มันมีค่ามหาศาลจริง ๆ อย่าได้เอาไปทิ้งให้สุญเปล่า มันทำให้ผมมีกำลังใจขึ้นมาทันที จากที่กำลังเหนื่อยล้าอยากจะพักผ่อน อยากจะงีบ แต่ถ้าเราเอาแต่มัวสบาย อาจจะไม่มีวันได้ทำความฝันของตัวเองก็ได้
ชีวิตก็เหมือนเทียน ไม่มีใครรู้ได้เลยว่า เทียนจะดับลงเมื่อไหร่ มันอาจจะโดนลมพัดจนดับไปก่อนที่จะมอดไหม้ถึงน้ำตาเทียนหยดสุดท้ายก็เป็นไปได้ เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ยังมาไม่ถึง ไม่ใช่ว่ามันจะไม่มา เพียงแต่เราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ดังนั้นจึงไม่ควรประมาท
ผมตัดสินใจอาบน้ำ แต่งตัว มุ่งหน้าเข้า Office ของผมในเวลา 08.04 น. ทันทีและเริ่มทำการเปิดโปรแกรมเคลียร์งานลูกค้า เป้าหมายวันนี้คือเคลียร์ Form Manage Data ระบบ Clinic by VB.NET ให้เสร็จ และทำการ set ระบบเตรียมทำสุดยอดโปรเจกพลิกโลกกับน้องเล็ก และน้องกิต ในชื่อว่า "iTeacher"
ก่อนต้องตายจากโลกใบนี้ไป ก็อยากฝากผลงานชิ้นสำคัญเอาไว้ ต่อให้เก่งกาจฉลาดเกินคนสักแค่ไหน เมื่อตายไปแล้วก็เปล่าประโยชน์หากไม่ได้มีผลงานหลงเหลือเอาไว้ให้คนรุ่นหลัง จะรวยจนล้นก็เพียงคน คนหนึ่งเหมือนกัน มีหิว มีหนาว มีเจ็บ และต้องตาย แล้วเราจะมัวเอาชีวิตอันมีค่าไปทิ้งเปล่าในโลกจอกหลอกใบนี้ทำไม
สู้ ๆ แด่ฝันอันยิ่งใหญ่
สู้ตาย
ตอบลบพอดีงานมันด่วนมาก แล้วก็ติดต่อไม่ได้เลย เลยจำเป็นต้องนั่งปวดหัวไปคนเดียว
ตอบลบ