พนักงานคนแรกของ บริษัทผม
วันนี้เป็นวันทำงานวันแรก ของพนักงานคนแรก ของบริษัทของผมครับ ฟังแล้วอาจจะพากันงง ความจริงก็คือ กิจการผมเริ่มเติบโตมาถึงจุดที่ต้องขยายแล้วล่ะ เลยรับพนักงานเข้ามาทำงานช่วย ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนครับ ใกล้ตัวมาก ๆ แฟนผมเอง เขาตัดสินใจลาออกจากอาชีพครูรับจ้าง ที่มีเงินเดือนน้อยนิด มาทำงานกับผม ซึ่งก็ให้เงินเดือนมากขึ้นกว่าที่เดิมพอสมควร
ตอนนี้ผมก็มีเวลาว่างมากขึ้น เลยเอาเวลาที่ว่างนี้ไปสร้างโปรแกรมต่าง ๆ และพัฒนาเว็บ เป้าหมายแรกที่วางไว้ก็คือจะเอาเวลามาพัฒนาเว็บไซต์ www.javathailand.com ให้เติบโตยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีก ทั้งเรื่องของหน้าตาเว็บ ระบบการจัดส่ง สินค้า บริการ วีดีโอ และส่วนต่าง ๆ ทั้งหมดของเว็บแห่งให้เหนือยิ่งกว่าที่เคยมีมาในอดีต
วันนี้เกือบทั้งวันก็หมดไปกับการสอนงาน ให้พนักงานใหม่ พร้อมกับวางแผนการทำงานให้เป็นระบบ มากยิ่งขึ้น ก็ตั้งใจมากว่าปีหน้าจะรับพนักงานเพิ่มอีกซัก 2 ตำแหน่ง หรือไม่ก็ 1 ตำแหน่ง อันนี้แล้วแต่อัตราความเติบโตของกิจการ
เป็นเวลายาวนานมาก ที่ต่อสู้ และเดินมาบนวิถีของนักสู้ผู้ไม่มีวันยอมแพ้ จนในที่สุดวันนี้ผมก็เริ่มมองเห็นแสงทองผ่องอำไพที่ปลายขอบฟ้า ความมืดมัวก็จางหายไปบ้างแล้ว รู้สึกขอบคุณตัวเองที่ยังไม่ยอมแพ้ ถึงแม้ว่าหลายต่อหลายครั้งผมมองไม่เห็นทางชนะได้เลย แถมบ่อยครั้งก็รู้สึกสิ้นหวัง แต่แล้วในที่สุดก็ผ่านพ้นมันมาได้จนมาถึงจุดนี้
บลอก คือสิ่งที่ทำให้ผมได้อ่านเรื่องราวของตัวเอง ย้อนกลับไปในวันวาน เห็นภาพความล้มลุกคลุกคลาน หยดน้ำตา รอยยิ้ม ความโศกเศร้า ความดีใจ สิ้นหวัง สมหวัง มีทุกอย่าง มันช่างเป็นอะไรที่สนุกดีจริง ๆ
อย่างไรก็ตาม ในวันข้างหน้ายังมีบททดสอบอีกมากรอผมอยู่ กิจการอาจจะล้มละลาย สลายไปในอากาศ จนผมกลายเป็นคนสิ้นเนื้อประดาตัว หรืออาจจะประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ไปถึงระดับโลก ก้าวเป็น บริษัทชั้นนำ ก็เป็นไปได้ ใครจะไปรู้ แต่นั่นก็คืออนาคต ทางที่ดีคือเดินบนวิถีอย่างรอบคอบ และไม่ประมาทในทุกย่างก้าว แม้จะเก่งกล้าขนาดไหน คนเราก็พลาดกันได้ทั้งนั้น อยู่อย่างมีสติ ผมเตือนตัวเองแบบนี้เสมอ
ตอนนี้ผมก็มีเวลาว่างมากขึ้น เลยเอาเวลาที่ว่างนี้ไปสร้างโปรแกรมต่าง ๆ และพัฒนาเว็บ เป้าหมายแรกที่วางไว้ก็คือจะเอาเวลามาพัฒนาเว็บไซต์ www.javathailand.com ให้เติบโตยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีก ทั้งเรื่องของหน้าตาเว็บ ระบบการจัดส่ง สินค้า บริการ วีดีโอ และส่วนต่าง ๆ ทั้งหมดของเว็บแห่งให้เหนือยิ่งกว่าที่เคยมีมาในอดีต
วันนี้เกือบทั้งวันก็หมดไปกับการสอนงาน ให้พนักงานใหม่ พร้อมกับวางแผนการทำงานให้เป็นระบบ มากยิ่งขึ้น ก็ตั้งใจมากว่าปีหน้าจะรับพนักงานเพิ่มอีกซัก 2 ตำแหน่ง หรือไม่ก็ 1 ตำแหน่ง อันนี้แล้วแต่อัตราความเติบโตของกิจการ
เป็นเวลายาวนานมาก ที่ต่อสู้ และเดินมาบนวิถีของนักสู้ผู้ไม่มีวันยอมแพ้ จนในที่สุดวันนี้ผมก็เริ่มมองเห็นแสงทองผ่องอำไพที่ปลายขอบฟ้า ความมืดมัวก็จางหายไปบ้างแล้ว รู้สึกขอบคุณตัวเองที่ยังไม่ยอมแพ้ ถึงแม้ว่าหลายต่อหลายครั้งผมมองไม่เห็นทางชนะได้เลย แถมบ่อยครั้งก็รู้สึกสิ้นหวัง แต่แล้วในที่สุดก็ผ่านพ้นมันมาได้จนมาถึงจุดนี้
บลอก คือสิ่งที่ทำให้ผมได้อ่านเรื่องราวของตัวเอง ย้อนกลับไปในวันวาน เห็นภาพความล้มลุกคลุกคลาน หยดน้ำตา รอยยิ้ม ความโศกเศร้า ความดีใจ สิ้นหวัง สมหวัง มีทุกอย่าง มันช่างเป็นอะไรที่สนุกดีจริง ๆ
อย่างไรก็ตาม ในวันข้างหน้ายังมีบททดสอบอีกมากรอผมอยู่ กิจการอาจจะล้มละลาย สลายไปในอากาศ จนผมกลายเป็นคนสิ้นเนื้อประดาตัว หรืออาจจะประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ไปถึงระดับโลก ก้าวเป็น บริษัทชั้นนำ ก็เป็นไปได้ ใครจะไปรู้ แต่นั่นก็คืออนาคต ทางที่ดีคือเดินบนวิถีอย่างรอบคอบ และไม่ประมาทในทุกย่างก้าว แม้จะเก่งกล้าขนาดไหน คนเราก็พลาดกันได้ทั้งนั้น อยู่อย่างมีสติ ผมเตือนตัวเองแบบนี้เสมอ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น