การศึกษาไทย กับโลกแห่งความจริง ของวงการซอฟต์แวร์
สำหรับบทความนี้ ผมก็เชื่อว่าหลายคนได้อ่านแล้วคงต้องเกิดอาการ อยากด่าผมแน่นอน แต่ไม่เป็นไรครับ ด่าได้ ติได้ เพราะมันคือ "ความคิดเห็น" ของคุณ
เริ่มเลยละกัน...
ตอนนี้ตลาดแรงงานด้านโปรแกรมเมอร์ ผมใช้คำนี้ไม่ใช่ว่า ตอกบัตรเป็นแหล่ง อย่างเดียวนะครับ แต่ผมรวมไปถึงการเป็น startup ด้วย ต่อๆๆ ก่อนจะหลงประเด็น ตอนนี้ครับ ตลาดไปทางด้าน เทคโนโลยียุคใหม่ไม่ว่าจะเป็น Web Application แบบ Responsive, CSS Framework, Layout Managent, Theme, รวมไปจนถึงเทคโนโลยีของหน้าจอที่สาม น่านไง มันอะไรอีกล่ะวะ หน้าจอที่สาม
มันคือไรฟะ ???
ก็พวกโทรศัพท์ พวก Tablet นั่นล่ะครับ มันอยู่กับคนแทบทุกคนแล้วตอนนี้ และอนาคตมันก็จะอยู่ในออฟฟิศ ใช้ทำงานแทน Notebook ได้แล้ว เช่น ระบบบัญชี ระบบการเงิน ระบบขนส่ง ระบบจัดซื้อ ระบบพนักงาน ระบบงานทะเบียน ระบบอื่นๆ โอยยย ผมเล่าไม่ไหว
แล้วยังไงต่อล่ะ ....
เอาแบบตรงๆ นะครับ ตอนนี้มีเพียงสถาบันการศึกษาไม่กี่แห่งเท่านั้น ที่รู้ว่า สถานการณ์เขากำลังไปทางไหน ส่วนที่เหลือทำอะไรครับ ยังคงเฉยไม่รู้เรื่อง สอนตามปกติ เรียนกันตามปกติอยู่ เผลอๆ อย่าหาว่าผมเว่อเลยนะครับ บางแห่งยังเรียน TurboC, Pascal, VB6 อยู่เลย นี่เรื่องจริงครับ
มันเกิดอะไรขึ้น นี่เราตามไม่ทันขนาดนั้นเหรอ...
ใช่ครับ เราเอาภาษา เอาเครื่องมือเมื่อ 20 ปีก่อน มาให้เด็กวันนี้เรียน โดยใช้ "ข้ออ้าง" ว่าเป็นพื้นฐานที่ดี หัดเขียนให้ได้ ภาษาอื่นก็จะง่ายหมดแหละ ในทางหลักการมันดูเหมือนจะใช่ครับ แต่ในทางปฏิบัติจริงๆ แล้ว คนเราไม่ได้มีเวลาไปศึกษาโน่น นี่ นั่นได้หรอก เพราะต้องทำงาน ต้องหาเงินกินข้าว ดังนั้นผมว่านะ
" การศึกษาไทย กำลังหลงทาง "
โลกข้างในห้องสี่เหลี่ยมนั่น กำลังหัดเขียนโปรแกรมด้วยวิธีการเดิมๆ ไม่ได้เป็น Framework ไม่ได้เป็น API ไม่ได้มีความ OOP ไม่ได้ใช้ ORM ไม่มี Cloud, Web Service, Client-Server ไม่ได้มีอะไรเลย นอกจาก INSERT, UPDATE, DELETE, SELECT โชว์ๆๆๆ ได้ ก็จบ รับกระดาษไปคนละแผ่น แล้วบอกว่า "กูเทพโว้ยยยย"
ใจเย็นๆ ครับ โลกข้างนอก เขาเขียนโค้ดติดต่อ API ต่างๆ กันแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Youtube, Facebook, Google และยังไม่พอ เขาเขียนระบบชำระเงินด้วย Payment Gateway กันครับ ทีนี้ล่ะ เมื่อพบว่าตัวเองอยู่ในกะลา สิ่งที่เกิดขึ้นคือ "กูไม่พร้อมว่ะ ไปเรียนต่ออีกดีกว่า"
เราน่าจะต้อง หันมาจริงจังกับหลักสูตร ระบบการศึกษาในด้าน Programming กันได้แล้วนะครับทั้งคนออกแบบหลักสูตร ทั้งคนสอน คนเรียน ควรที่จะก้าวให้ทัน ยุคสมัย ไม่เช่นนั้น ผมว่า "เราจะแย่"
เริ่มเลยละกัน...
ตอนนี้ตลาดแรงงานด้านโปรแกรมเมอร์ ผมใช้คำนี้ไม่ใช่ว่า ตอกบัตรเป็นแหล่ง อย่างเดียวนะครับ แต่ผมรวมไปถึงการเป็น startup ด้วย ต่อๆๆ ก่อนจะหลงประเด็น ตอนนี้ครับ ตลาดไปทางด้าน เทคโนโลยียุคใหม่ไม่ว่าจะเป็น Web Application แบบ Responsive, CSS Framework, Layout Managent, Theme, รวมไปจนถึงเทคโนโลยีของหน้าจอที่สาม น่านไง มันอะไรอีกล่ะวะ หน้าจอที่สาม
มันคือไรฟะ ???
ก็พวกโทรศัพท์ พวก Tablet นั่นล่ะครับ มันอยู่กับคนแทบทุกคนแล้วตอนนี้ และอนาคตมันก็จะอยู่ในออฟฟิศ ใช้ทำงานแทน Notebook ได้แล้ว เช่น ระบบบัญชี ระบบการเงิน ระบบขนส่ง ระบบจัดซื้อ ระบบพนักงาน ระบบงานทะเบียน ระบบอื่นๆ โอยยย ผมเล่าไม่ไหว
แล้วยังไงต่อล่ะ ....
เอาแบบตรงๆ นะครับ ตอนนี้มีเพียงสถาบันการศึกษาไม่กี่แห่งเท่านั้น ที่รู้ว่า สถานการณ์เขากำลังไปทางไหน ส่วนที่เหลือทำอะไรครับ ยังคงเฉยไม่รู้เรื่อง สอนตามปกติ เรียนกันตามปกติอยู่ เผลอๆ อย่าหาว่าผมเว่อเลยนะครับ บางแห่งยังเรียน TurboC, Pascal, VB6 อยู่เลย นี่เรื่องจริงครับ
มันเกิดอะไรขึ้น นี่เราตามไม่ทันขนาดนั้นเหรอ...
ใช่ครับ เราเอาภาษา เอาเครื่องมือเมื่อ 20 ปีก่อน มาให้เด็กวันนี้เรียน โดยใช้ "ข้ออ้าง" ว่าเป็นพื้นฐานที่ดี หัดเขียนให้ได้ ภาษาอื่นก็จะง่ายหมดแหละ ในทางหลักการมันดูเหมือนจะใช่ครับ แต่ในทางปฏิบัติจริงๆ แล้ว คนเราไม่ได้มีเวลาไปศึกษาโน่น นี่ นั่นได้หรอก เพราะต้องทำงาน ต้องหาเงินกินข้าว ดังนั้นผมว่านะ
" การศึกษาไทย กำลังหลงทาง "
โลกข้างในห้องสี่เหลี่ยมนั่น กำลังหัดเขียนโปรแกรมด้วยวิธีการเดิมๆ ไม่ได้เป็น Framework ไม่ได้เป็น API ไม่ได้มีความ OOP ไม่ได้ใช้ ORM ไม่มี Cloud, Web Service, Client-Server ไม่ได้มีอะไรเลย นอกจาก INSERT, UPDATE, DELETE, SELECT โชว์ๆๆๆ ได้ ก็จบ รับกระดาษไปคนละแผ่น แล้วบอกว่า "กูเทพโว้ยยยย"
ใจเย็นๆ ครับ โลกข้างนอก เขาเขียนโค้ดติดต่อ API ต่างๆ กันแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Youtube, Facebook, Google และยังไม่พอ เขาเขียนระบบชำระเงินด้วย Payment Gateway กันครับ ทีนี้ล่ะ เมื่อพบว่าตัวเองอยู่ในกะลา สิ่งที่เกิดขึ้นคือ "กูไม่พร้อมว่ะ ไปเรียนต่ออีกดีกว่า"
เราน่าจะต้อง หันมาจริงจังกับหลักสูตร ระบบการศึกษาในด้าน Programming กันได้แล้วนะครับทั้งคนออกแบบหลักสูตร ทั้งคนสอน คนเรียน ควรที่จะก้าวให้ทัน ยุคสมัย ไม่เช่นนั้น ผมว่า "เราจะแย่"
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งเลยครับ น่าจะเป็นจุดเล็กๆที่ต้องแก้ทั้งระบบครับ
ตอบลบให้เปลี่ยนระบบมันเปลี่ยนยาก ยิ่งเป็นของรัฐยิ่งยาก ส่วนเอกชนหลายๆ มหาวิทยาลัยเริ่มตื่นตัว เดี๋ยวนี้มีทั้งเรียนแบบได้ใบประกาศ หรือได้ใบปริญญากันเลยที่เดียว ไม่ว่าจะเป็น Web, iOS, Android สิ่งที่อยากฝากและคิดว่าผู้เขียนเองก็คงทำอยู่นั่นก็คือ "เราไม่สามารถเปลี่ยนระบบได้...แต่เราสามารถสร้างระบบเพื่อแบ่งปันให้กับผู้อื่นได้"
ตอบลบยากครับ ผมไม่รุ้ว่า จะช่วยเหลือการศึกษาไทยอย่างไรดี ในใจก็คิดอยากจะเปลี่ยนมันมาตลอด
ตอบลบ