ตามรอยโปรแกรมเมอร์ ถาวร ตอน สิ้นศรัทธาการศึกษาไทย

ขออภัยด้วยครับหากบทความต่อไปนี้ แทงโดนหัวใจของใครเข้าอย่างจัง แต่ผมจำเป็นต้องเขียนมันขึ้นมา เพราะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง และผมพยายามที่จะเปลี่ยนแปลง ระบบการศึกษา แนวคิด ของคนระดับสูง มานานแสนนาน

ขอย้อนเวลากลับไป เมื่อปีที่แล้ว ผมได้ทำการติตด่อประสานงานร่วม MOU กับสถาบันการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยไปหลายแห่ง ไม่ขอเอ่ยนามนะครับ เพื่อที่ผมและทีมจะไปจัดอบรมให้ความรู้ด้านการเขียนโปรแกรม หรือด้านเทคโนโลยีอะไรใหม่ๆ แก่บรรดานักศึกษา ผู้อยู่ในห้องสี่เหลี่ยมจนไม่รู้ว่าโลกข้างนอกเป็นอย่างไร

เอาล่ะ และเราก็ได้ร่วมกับหลายๆ สถาบัน มีการไปจัดอบรมให้ ครั้งนึงก็ 3 - 5 วัน ไม่คิดค่าใช้จ่าย ไม่มีค่าตัววิทยากร ขอแค่ที่พักและค่าน้ำมันรถ กิโลเมตรละ 4 บาท ขาดทุนแบบเห็นๆ เจ็บตัวเห็นๆ แต่ผมก็ทำ เพราะอยากให้โอกาสกับน้องๆ หลายคนที่อยู่ในระบบมหาวิทยาลัย พวกเขาเหล่านี้คืออนาคตของชาติในวันหน้า

เมื่อเวลาผ่านไป หลายๆ แห่งก็ล้มเลิกโครงการ ด้วยเหตุผลมากมายที่ไม่รู้คิดได้อย่างไร ทั้งที่ผมไม่ได้เอาค่าตัววิทยากร ไม่ได้ไปกระทบกับงบประมาณ หรือเบียดเบียนเวลาเรียนของเด็กเลย เพราะการอบรมเราใช้วันหยุดก็ได้ วันที่ทั้งสองฝ่ายสะดวกที่สุด และเนื้อหาก็จะเป็นเรื่องที่ไม่มีในหลักสูตร แต่มีในการทำงานจริง เอาล่ะ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ผมอยากบอกผู้อ่านว่า ผมเสียใจ

ตอนนี้ก็เหลือเพียงแค่ 2 สถาบันที่ยังร่วมโครงการ MOU กับผมอยู่ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมคนในระดับบริหาร ที่มีอำนาจตัดสินใจเรื่องต่างๆ กลับมองไม่เห็นโอกาส บางคนขาดวิสัยทัศน์

ผมหมดสิ้นศรัทธา การศึกษาไทยแล้ว แม้ว่าตอนนี้จะมีหลายๆ สถาบันเข้ามาขอร่วม MOU ด้วยแต่ผมก็ปฏิเสธไปหมดทุกราย เพราะในวันที่ผมมอบให้แล้วไม่เห็นคุณค่า ก็เอาเป็นว่าทำหนังสือเชิญผมไปเป็นวิทยากรให้ก็แล้วกัน ค่าตัวเอาแน่ไม่ได้ บางทีตามเรทราชการ บางทีตามเรทของผมเอง

ในสังคมที่เต็มไปด้วยคนหลากหลายรูปแบบ หลายความคิด มันเป็นเรื่องปกติที่ความคิดจะไม่ตรงกัน ขัดแย้งกัน ทั้งเรื่องความเชื่อ อุดมการณ์ ความฝัน ความหวัง ผมไม่ได้ถือโทษโกรธใครแค่เสียดาย โอกาสดีๆ แทนน้องนักศึกษาหลายคน

ชีวิตผมเปลี่ยนแปลงได้ มีวันนี้ได้ เพราะการได้รับฟังคำแค่เพียงไม่กี่ประโยค เลยทำให้ผมเชื่อว่า บางครั้งการไปอบรมของผม อาจเปลี่ยนชีวิตใครบางคนไปตลอดกาล หากจะบอกว่าให้ทำเรื่องราวสอนไว้บน youtube แต่เชื่อผมไหมว่า มีคนอีกมากมายค้นหาผมไม่เจอ และไม่ใส่ใจที่จะหาความรู้ แต่หากเขาเหล่านั้นได้ถูกบังคับมาอบรม มันต้องมีบ้างล่ะ ที่คำพูดของผม เปลี่ยนชีวิตพวกเขาได้

ความคิดเห็น

  1. เสียดายโอกาสเด็กๆเพียงเพราะผู้ใหญ่ไม่กี่คน

    ตอบลบ
  2. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  3. น่าเสียดายนะครับ ตอนเราไขว้คว้าหาแทบแย่ พอได้เจอคนที่พร้อมแบ่งปันความจริงใจ กลับโดนกลุ่มคนที่ไร้วิสัยทัศน์มากีดกัน

    ตอบลบ
  4. ขอบพระคุณที่ อ.กบ ทำเพื่อคนรุ่นใหม่ครับ คนดีสวรรค์ย่อมเห็นแล้วส่งผลให้อาจารย์เจริญรุ่งเรืองครับ

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เรื่องราวชีวิตของ ถาวร ศรีเสนพิลา

นักสู้ต้นแบบของผม

เทคนิคการทำโปรแกรมขาย