บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก ธันวาคม, 2012

บางอย่าง แทงทะลุหัวใจ เจ็บแปล้บบบ

ค่ำคืนนี้ เวลาตี 4 กับ 10 นาที ผมยังนอนไม่หลับ ได้บังเอิญไปเห็นคลิปอันหนึ่ง ที่เด็กเล็ก ๆ ถูกแม่ทำร้าย ทุบตี มันสะท้อนภาพบางอย่างในอดีตวันวาน ให้ผุดขึ้นมาอย่างคาดไม่ถึง ภาพเหตุการณ์เลวร้ายต่าง ๆ เรียงต่อกันมาเป็นฉาก ราวกับว่า หนังเรื่องเก่าถูกฉายซ้ำอีกรอบตรงหน้าของผม เจ็บปวดไปถึงหัวใจของหนุ่มน้อยคนหนึ่ง ที่เคยเป็นเช่นนั้น เมื่อวัยเยาว์ผมจะถูกพ่อทำร้าย ตบตี อยู่บ่อย ๆ แทบจะทุกวันก็ว่าได้ บางครั้งที่ทะเลาะกันกับแม่ หรือไปทะเลาะกับเมียน้อย ก็จะมาลงที่ลูกคนโต ซึ่งก็คือผม เรื่องราวมากมาย ที่ถาโถมเข้ามายังชีวิตเริ่มลำดับเหตุการณ์ทีละตอน ผมเองก็หยุดมันไม่ได้ ลางเลือน แต่กลับ ชัดเจน... และแล้วก็มาถึงฉากตอนที่ถูกทอดทิ้งให้ต่อสู้ชะตาชีวิตเพียงลำพัง พ่อแม่ แยกทางกันไป ปล่อยให้เด็กตัวน้อย ๆ คนหนึ่งต้องฝ่าฟันกับสิ่งที่อยู่รอบข้าง คำว่า "อบอุ่น" มันขาดหายไป จะว่าไป มันไม่เคยมีเลยต่างหาก ตั้งแต่จำความได้ เวลาที่อบอุ่นที่สุดคือตอนที่ได้นอน แล้วแม่เอากระดาษมาพัดให้ จนหลับไป ท่ามกลางความมืด และเงียบสงบ อยากจะลบสิ่งเลวร้ายเหล่านี้ออกไปจากความทรงจำ อยากทำได้เหมือนการ format เครื่องคอมพิ

ความหมายของคำว่า มุ่งมั่น

เราเคยได้ยินคำนี้กันมานานแสนนานแล้ว สำหรับคำว่ามุ่งมั่น แต่ รู้กันหรือเปล่าว่าความหมายแท้จริงแล้วนั้นคืออะไรกันแน่ ผมไปค้นมาจากภาษากรีก เขาบอกว่า มุ่งมั่นคือการ ยืนหยัด และยอมทน จนกว่าจะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ ผมได้เห็นหลาย ๆ คนไปเรียนต่อในระดับที่ตัวเองอยากเรียน สาขา คณะ ที่ตัวเองอยากเรียน ถามกันจริง ๆ เถอะครับว่า อยากเรียนแน่หรือเปล่า หรือแค่เห่อกันไปตามกระแสสังคมเท่านั้น ทำไมน่ะหรือ ทำไมผมถึงได้ถามคำถามแบบนี้ เอาล่ะ ผมจะเล่าเรื่องราวสั้น ๆ เอาแบบใกล้ตัวที่สุด นาย ก. สอบเข้าเรียนมหาลัย a สาขาด้าน computer และบอกว่า กระผมชอบมากครับ กระผมอยากเขียนโปรแกรมให้เก่ง ๆ ผ่านไป 1 ปี ก็หันไปเอาดีทางสาย Network Admin และบอกว่า ผมค้นพบตัวเองแล้วครับ จากนั้นผ่านไปอีก 1 ปีก็หันไปเอาดีด้าน Graphic ครับ พร้อมบอกว่า รู้หมดละ Programming, Network เบื่อ หันมาทางนี้ดีกว่า ท้าทาย สุดท้าย นาย ก. ก็เรียนจบ และหางานทำลำบาก เพราะไม่ได้ชำนาญอะไรซักเรื่อง ค้นหาตัวเองไม่เคยพบเลย ตลอดระยะเวลายาวนาน แล้วก็เปลี่ยนงานไปเรื่อย ๆ ไม่ยืนหยัด ไม่อดทน เราค้นหาตัวเองให้พบ แล้วยึดมั่นเดินไปให้สุดทางฝันจะดีกว่า

Honda City จนได้ เย้ ๆ

นานมาแล้ว คงจำกันได้ว่าต้นปี ณ เดือนมกราคม ผมตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าจะออกรถ Honda City ให้ได้ในปีนี้ และบัดนี้ปลายปีพอดี ผมก็ทำได้จริง ๆ ครับไปทำการจองรถไว้แล้วเรียบร้อย ว้าว ๆ สุดเท่ไปเลย ลึก ๆ แล้วในใจก็ไม่ได้มีความอยากได้อะไรนักหนา เพราะงานที่ทำอยู่นั้นไม่ได้เคลื่อนที่ไปไหนเลย อีกอย่างคือเป็นการเสียเงินจำนวนมากโดยใช่เหตุ แต่ก็อย่างว่า บางครั้งเราก็อยากจะสบายบ้าง อะไรบ้าง จริงมะ สุดท้ายเรื่องราวในปี 2012 นี้ผมก็จัดไปจนได้กับรถในฝัน ที่เอาภาพแปะไว้ในห้องทำงาน เนิ่นนานนับปี คนเรานั้น เวลาตั้งเป้าหมาย ก็มักโดนคนหัวเราะเยาะ แต่เมื่อเขาทำได้จริง ๆ ตามที่เขาตั้งหวัง เสียงหัวเราะนั้นถึงจะสงบลง ทำไมหรือ การมีความฝัน มีเป้าหมาย มันผิดอะไร หลายคนที่อยู่รอบตัวก็เคยหัวเราะผม ในวันที่ผมบอกว่า "สักวันหนึ่งจะมีรายได้เดือนละแสน" ใช่แล้ว ในวันนั้นผมก็โดนหัวเราะ และโดนถากถางมาตลอดเส้นทาง จนกระทั่ง มาถึงวันที่ผมทำได้จริง ๆ ยอดรายได้ทั้งสิ้นในเดือนที่ผมสามารถหาได้มากกว่า 100,000 บาท อาจจะฟังดูตลก เมื่อเห็นสภาพผมขับรถมอเตอร์ไซเก่า ๆ ใส่เสื้อผ้าธรรมดา กินอยู่ แบบคนทั่วไปที่เขาไม่มีเงิน ทำไมน

คิดทำการใหญ่ ใจต้องเหี้ยม

เนื่องจากโปรเจก SciAcc ที่ผมได้เขียนให้กับ สถาบันแห่งหนึ่ง ยังไม่เสร็จสิ้น (ในความคิดของลูกค้า) และผมก็มองไม่เห็นเลยว่า มันจะเสร็จเอาตอนไหน เพราะว่าทุกครั้งที่พรีเซนต์ก็ไปเรื่อย ๆ โอเคเรื่องแค่นี้ผมยอมรับได้ แก้ไปเหอะ รื้อไปเหอะ ผมไม่ว่าไรหรอก ก็แค่จ่ายมา ค่าเสียเวลาผม ไม่มีอะไรแก้กันฟรี ๆ ครับ Business is a Business กระทั่ง ลูกค้าบอกว่า หมดงบแล้ว ไม่มีเงินให้ละ แล้วเขาก็ไม่ได้จ่ายผมอีก ผมก็เลยจำเป็นต้องโหด โดยการไม่ทำให้ต่อถึงแม้ว่าจะ bug หรือจะเป็นการเพิ่มฟีเจอร์ หรือปรับให้เข้ากับงานเขาจริง ๆ ก็ตาม เงินไม่มา งานก็ไม่เดิน โลกใบนี้ผมอยู่มานาน และนานพอที่จะค้นพบสัจธรรมว่า ยอมเขา = เราเจ็บตัว อาจฟังดูโหดร้าย แต่ความจริงก็คือความจริง คนเราตื่นมาต้องใช้เงิน ต้องกิน ต้องมีห้องเช่า ต้องมีค่าน้ำมันรถ ต้องโน่น นี่ สารพัด แล้วจะมาทำงานให้กันฟรี ๆ ได้ยังไง เมื่อเงินหมด งานก็หยุดเดิน โดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ รองรับทั้งสิ้น เพราะผม "มีวันตาย" นับวันก็ยิ่งเข้าใจโลกมากขึ้น และดูเหมือนจะโหดเหี้ยมเข้าเรื่อย ๆ นั่นเพราะสังคม เอาเปรียบผมมาโดยตลอด คนเราไม่ได้อยู่ด้วยเงินหรอก อยู่ด้วยอาหาร แ

อีกคืนที่นอนไม่หลับ

หลายคืนแล้วที่ผมนอนไม่หลับ ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร มันมีบางเรื่องราว ค้างคาอยู่ในใจลึก ๆ แต่ไม่สามารถเขียนออกมาเป็นถ้อยคำได้ มีวันวานอันโหดร้าย ปวดร้าว มีอนาคตที่วาดไว้ในอากาศ แต่ก็ยังไปไม่ถึง แม้จะพยายามสุดความสามารถแล้ว จนเวลานี้ สิ่งที่ผมทำอยู่ก็คือ มุ่งหน้าสู่เป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ ปีนี้ก็ไปถึงจนได้เป้าหมายที่ตั้งหวัง แต่เป้าหมายปีหน้ายิ่งใหญ่มากขึ้นอีกหลายเท่านัก แต่ก็จะทำให้ได้ ในเมื่อนอนไม่หลับ แล้วจะทำอะไรดีนะ ผมก็เลยเปิดโปรแกรม NetbeansIDE ขึ้นมาเขียนโปรแกรม jPOS ของผมต่ออีก อยากให้เสร็จไว ๆ รีบเปิดตัวจังเลย มีคนอีกจำนวนมากรอคอยที่จะใช้ version 2013 แต่พอเขียนโค้ดไปซักพัก ผมก็เหนื่อยล้า เลยขับมอเตอร์ไซเก่า ๆ ของผม ออกไปนั่งกินเบียร์ 1 ขวดในร้านเหล้า เห็นเด็กวัยรุ่นเมา พากันเต้น อย่างสนุกสนาน พวกเขารู้กันไหมว่า วันข้างหน้าจะออกไปทำงานอะไร อาชีพอะไร เงินเดือนเท่าไหร่ พอกินหรือเปล่า เอาล่ะ นั่นมันเรื่องของเขา ไม่ใช่เรื่องของผม ผมก็กลับมาเริ่มต้นเขียนหนังสือ Yii Advanced ต่ออีก เขียนมาเขียนไปเอาอีกละ อาการเดิมครับ เซ็ง เลยเปิดโนตบุคอีกเครื่อง Lenovo นั่งเขียนหนังสือ Java Desktop

ถึงเวลาแล้วที่ต้องเลือกทางเดินให้กับตัวเอง

ขณะที่ผมกำลังนั่งเขียนโปรแกรม ทำงานชิ้นหนึ่งให้กับลูกค้า ซึ่งยืดเยื้อมาเป็นเวลานาน เกินกำหนดจริงมาแล้ว 3 เดือน ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเสร็จ ดูเหมือนจะมีอะไรหลายอย่างที่ทำให้งานชิ้นนี้ล่าช้าออกไปเรื่อย ๆ อย่างไม่มีกำหนด ผมก็มานั่งคิด ทบทวนกับตัวเองว่า เราน่าจะเลือกทางเดินให้ตัวเอง แล้วก้าวเดินไป ไม่ต้องง้อคน ไม่ต้องก้มหัวให้ใคร ไม่รับงาน แต่สร้างชิ้นงานของตัวเอง ซึ่งตอนนี้ก็มี jPOS, iService, jCAR, iSchool ที่ขายได้เรื่อย ๆ สิ่งเหล่านี้ผมไม่เครียดกับมันเลย เพราะทำออกมาบนความต้องการของตัวเอง แล้วนำเสนอให้คนได้รับรู้ จากนั้นก็มีคนจำนวนมากนำไปใช้งาน และบอกต่อเรื่อย ๆ ยิ่งคิด ก็ยิ่งได้คำตอบ ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ว่าตัวเองไม่เหมาะกับงานที่จุกจิก และไม่ชัดเจน ณ เวลานี้ ก็มีงานอีกชิ้นนึง ที่เซ็นสัญญาไปแล้ว แต่ทางผู้ว่าจ้างยังไม่โอนเงินให้เลย (เกินกำหนดมาแล้ว 1 วัน) ผมก็เลยคิดว่า ผมควรที่จะยกเลิกสัญญานี้ดีหรือเปล่า เพราะหากทำงานนี้ก็ต้องขายวิญญาณตัวเองไปอีกราว ๆ ครึ่งปี แลกกับเงินเพียงไม่กี่บาท แถมยังต้องเสียโอกาสในการพัฒนาสินค้าตัวเอง อีกด้วย ไม่มีความสำเร็จใด ยิ่งใหญ่เท่าชนะใจของตนเอง ถึงเ

วันพ่อปีนี้

วันนี้วันที่ 5 ธันวาคม 2555 วันพ่อแห่งชาติ ชีวิตก็เหมือนวันทุกวัน คือวันปกติ นั่งทำงานเขียนโปรแกรมไปเรื่อย ๆ ทำนี่ ทำนั่น คิดไอเดีย ค้นหาหนทางว่าจะทำโปรแกรมอะไรดี แต่ก็เขียน jPOS 2013 ไปด้วย หลายคนก็คงอยู่กับครอบครัวอย่างอบอุ่น แต่สำหรับครอบครัวของผม ไม่ได้เป็นแบบนั้น ก็ไม่เป็นไรผมมีหน้าที่สร้างนวัตกรรม ก็มุ่งหน้าสร้างต่อไป รอคอยวันนั้นวันที่พ่อ จะมีเวลาว่าง อยู่กับครอบครัว ถึงวันนั้นผมเองก็อยากมีเวลาว่างให้กับครอบครัวเช่นกัน จะว่าไปผมก็ไปไหนไม่ได้เลย เพราะเมื่อวานไปตีปิงปองแล้วหลังเคล็ด ขยับก็ปวดหลังทันที แปล้บ ๆ ๆ เจ็บจี้ดมาก กินยาแล้ว หวังว่าวันนี้จะหาย เพราะมีเป้าหมายคือเสาร์นี้ จะไปบำเพ็ญประโยชน์คดีเมาแล้วขับ ฮ่า ๆ ๆ จะได้หมดคดีซะที เดี๋ยวเดือดร้อนไปมากกว่านี้ ไม่มีอะไรจะเล่า ก็เล่าเรื่องทั่วไปนะคราฟ ตามประสาโปรแกรมเมอร์บ้า ๆ บอ ๆ แบบผม ไร้สาระบ้าง มีสาระบ้าง เขียนไว้อ่านในวันหน้า เพื่อมองย้อนกลับมาดูตัวเอง ระหว่างวันเวลาที่เดินมา