บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก 2014

Android Studio ปัญหา และแนวทางแก้ไข

รูปภาพ
เมื่อวันก่อนทาง Google ได้ปล่อย Android Studio 1.0 ให้พวกเราโหลดมาเล่นกัน ผมก็เลยทำการโหลดมาเล่นตอนเย็นๆ ของวันนั้น ผมก็เจอปัญหาเพียบเลยครับ ใช้งานไม่ได้ เพราะผมไม่เข้าใจว่ามันต้องเซตอะไรบ้าง หรือลงอะไรเพิ่มเติมอีก ตอนนั้นเครื่องผมเป็น JDK 1.6 อยู่แล้ว และเขียนแอพด้วย ADT ครับ เอาล่ะ จากปัญหามากมายที่ลงแล้วใช้งานไม่ได้ ผมก็งมแก้ไขอยู่นาน จนผมรันโปรแกรมได้ละ เลยขอมาเขียนบทความเพื่อแบ่งปันเทคนิคการแก้ปัญหาครับ ให้เพื่อนๆ ลง JDK 1.7 นะครับ แล้วติดตั้ง Android Studio จากนั้นมันก็จะให้เราโหลด SDK มาลงเอง เราก็คลิกโหลดไปเลย (นานหน่อย) ทีนี้ถ้าเข้ามาเจอหน้าจอแบบนี้ ไม่ต้องตกใจครับ นั่นแปลว่าเครื่องเรามี JDK 1.6 อยู่ก่อนแล้ว ให้ลบมันออกไปครับผม ถ้าใครใช้แมค ก็ให้พิมพ์คำสั่งนี้ใน terminal sudo rm -rf /Library/Java/JavaVirtualMachines/1.6.0*.jdk โอเค คราวนี้เราก็ลบ JDK 1.6 ออกไปได้ละ มาที่โปรแกรม Android Studio กันต่อ ให้เปิดปิดใหม่ และรอมันสักพัก แล้วป้อน path JDK 1.7 ครับ เอาล่ะครับ ทีนี้ก็ผ่านไปได้อีกด่านละ ถ้ายังเจอปัญหาแบบนี้ต่ออีก หากเจอปัญหาแบบนี้

ขอมอบแด่ บัณฑิต ทั้งหลาย

ช่วงนี้เห็นนักศึกษาหลายๆ สถาบัน ก็เรียนจบ ได้รับใบปริญญากันแล้ว ผมก็รู้สึกดีใจด้วยครับ ที่พวกท่านอดทน ฝ่าฝัน ตั้งใจเรียน และอดหลับอดนอน ทำการบ้าน ทำงานส่ง อ่านหนังสือ หรือบางคนก็อาจจะนอนสบายๆ เรียนแบบชิวๆ ไปเรื่อยๆ หรือบางคนก็อาจจะ เมาเป็นประจำ เที่ยวทุกศุกร์ เสาร์ และแล้ว ทุกคนก็มาบรรจบที่วันรับปริญญา ถือกระดาษคนละ 1 ใบด้วยกัน สำหรับบางคนแล้วก็เป็นสิ่งที่ทรงคุณค่ามหาศาล สำหรับบางคนก็อาจจะรู้สึกธรรมดา ขึ้นอยู่กับว่า เราคาดหวังมากน้อยสักแค่ไหน แต่ไม่ว่าจะด้วยอะไร หรือรู้สึกยังไงก็ตามครับ ผมอยากให้ทุกๆ คนภาคภูมิใจ ที่คุณเอาชนะตัวเองมาได้ จนถึงวันแห่งความสำเร็จ นี่เป็นก้าวหนึ่ง ที่จะนำพาคุณสู่ก้าวต่อไป โลกนอกห้องสี่เหลี่ยม ที่คุณเคยอยู่มานานถึง 4 ปี นับจากนี้มันคือ "สนามจริง" ที่รอคุณไปพิสูจน์ฝีมือ ความรู้ ความอดทน ว่าจะรอดหรือไม่ ในบทความนี้ไม่มีอะไรมากครับ ผมเพียงอยากเขียนถึงเหล่า บัณฑิต ใหม่ป้ายแดงทั้งหลาย 1. ขออย่าได้หยุดยั้งด้านการเรียนรู้ ค้นคว้า ไม่ว่าจะในโลกแห่งการศึกษา หรือโลกการทำงาน การศึกษาหาความรู้ ค้นคว้า วิจัย ยังสำคัญเสมอ เพราะนอกจากจะทำให้คุณรอบรู้ เก่งขึ้

ออกแล้ว Android Studio 1.0 พร้อมปัญหา เพียบ

รูปภาพ
วันนี้เป็นวันแรกที่ทาง Google ออกโปรแกรม Android Studio 1.0 ให้พวกเราชาวนักเขียนโปรแกรม ได้โหลดมาเล่นกัน ตอนเช้าผมก็ไม่ว่างโหลด เพราะติดสอนนักศึกษาเขียน Android ด้วย ADT อยู่ พอตอนเย็นๆ ว่างก็เลยมาห้อง ต่อเนตความเร็วสูง และทดสอบโหลดมาติดตั้ง ยังไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้นครับ โหลดมา เปิดโปรแกรม และก็เจอแบบนี้กันเลย เป็นงงครับ ผมมี JDK อยู่ในเครื่องเป็นรุ่น 1.6 คาดว่าจะไม่ตรงกัน ถ้าให้เอา 1.7 มาใส่คงไม่ดีแน่ เพราะ ADT ของผมจะรันไม่ได้ เนื่องจากต้องใช้ในการทำงานอยู่ ก็เลยโอเค ข้ามตรงนี้ไปก่อน เจอปัญหาต่อมาอีกครับ ดังนี้ เอาไม่ยากครับ มันคงต้องการ Android SDK ซึ่งมันก็มีอยู่แล้วในเครื่องผม ที่ลง ADT เอาไว้ โอเค มันก็คงจะหากันไม่เจอ งั้นไม่เป็นไร ผมสงสัยว่า ทำไมไม่แพคมาด้วยกันเลยจะได้จบ ไฟล์ใหญ่หน่อยก็ไม่เป็นไรหรอก ผมโหลดไหว ต่อมาครับ ผมจะกดตรง Android SDK Manager ปรากฏว่ากดแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย (แล้วมีให้กดทำไม) สรุปว่า วันนี้ก็ยังคงทำอะไรไม่ได้ นอกจากเฝ้ามอง จะให้ผมแก้ปัญหาเหล่านี้ มันไม่ยากครับ แก้ได้แน่นอน แต่ต้องใช้เวลาหน่อย และตอนนี้ผมก็หมดเวลาจะทดสอบอะไรแล้ว ก็เลย เอา

ตำนาน ปิงปองซอฟต์

เมื่อ 5 ปีที่แล้ว เด็กหนุ่มคนหนึ่ง ได้ตัดสินใจลาออกจากงานประจำ มาเดินทางตามความฝันของเขา กับน้องๆ อีก 2 คน ที่เพิ่งจบ ปวส. มาใหม่ๆ จุดเริ่มต้นมีเพียงโนตบุคเก่าๆ คนละเครื่อง นั่งเขียนโปรแกรมกันใต้ร่มไม้ ในมหาวิทยาลัยอุบลฯ แล้วก็ห่อข้าวมากินกัน มีอะไรแบ่งกันกิน สะพายกล่องข้าวมาทุกวัน พาหนะก็มีเพียงโหนรถโดยสารมาสร้างความฝัน ไม่มีแสงแห่งความสำเร็จ ไม่มีเงินทุน ไม่มีอะไรเลย นอกจากความเชื่อ และความหวัง ว่าพวกเขาจะก้าวไปข้างหน้ากันได้ จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ตรงนั้น ไม่นานเกินรอเราก็เริ่มมีรายได้บ้าง เดือนละ หลักร้อย มาเป็นเดือนละหลักพัน และก้าวไปเรื่อยๆ ทีละก้าว จากวันเวลาสู่วันเวลา เด็กหนุ่มกลุ่มนั้นก็ประสบความสำเร็จกันมากขึ้น มีสำนักงาน มีรถยนต์ขับ มีรายได้เพียงพอเลี้ยงชีพให้อยู่อย่างสบาย มันไม่ได้สลักสำคัญอะไรหรอกว่า วันนี้หาเงินได้เท่าไหร่ หรือกำลังยากลำบากอยู่แค่ไหน มันสำคัญที่ว่า "ได้ลงมือทำความฝันของตัวเองแล้วหรือยัง" วันนี้เด็กน้อยกลุ่มนั้น เป็นที่รู้จักของผู้คนในนาม "ปิงปองซอฟต์" และกำลังเริ่มสร้างอาณาจักรใหม่ไปอีก นั่นคือ "Joodaz" ซึ่งได้มีทีมงาน

แบบเสื้อ สมาคมโปรแกรมเมอร์แห่งประเทศไทย

รูปภาพ
ในที่สุดก็ออกแบบเสร็จ และได้รับการโหวตอย่างเป็นทางการ นี่คือแบบเสื้อที่นำมาให้ดูครับ เราจะตัดเพียงปีละครั้งเท่านั้น หากท่านใดสนใจก็ให้ทำการกรอกข้อมูลตามลิงค์นี้ครับ https://docs.google.com/forms/d/11p_eaiyWRO2jaPyQ-YWoOvTuzufaXRVUMIdnW--oZN0/viewform ส่วนแบบเสื้อคือภาพนี้ แบบเสื้อ ปี 2557 ราคาเพียง 400 บาทครับ กำไรจะเข้าสมาคม ไว้จัดกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นประโยชน์แก่เหล่าโปรแกรมเมอร์เมืองไทย

เตรียมกำเนิด สมาคมโปรแกรมเมอร์ แห่งประเทศไทย

รูปภาพ
ออกแบบเสร็จแล้ว ต่อไปคือเอาไปแปะใส่หลังเสื้อ เย้ๆๆๆ สมาคมโปรแกรมเมอร์ไทย ใกล้จะเกิดขึ้นจริงๆ แล้ว ผมและทีมงาน จะผลักดันให้วงการนักเขียนโปรแกรมไทย เปลี่ยนไป มีคุณภาพ มีศักยภาพยิ่งขึ้น และมีคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้งเรื่องการจ้างงาน เรื่องแนวคิด และอื่นๆ เราจะเป็นกลุ่มที่เข้มแข็ง บทความนี้ผมอาจเขียนไม่เก่ง เพราะตื่นเต้นมาก ถ้าอย่างไรขอฝากเท่านี้ก่อนครับ ขอขอบคุณ อ.อาคม ไทยเจริญ ที่ร่วมกันยืนหยัด จัดประชุม หาทีมงาน และเป็นกำลังใจด้วยกันเสมอมา ขอบคุณครับ

ตามรอยโปรแกรมเมอร์ ถาวร ตอน ศิษย์มีครู

รูปภาพ
หลังจากพักมือกับการเขียนโค้ดทั้ง Objective-C, Yii PHP, Android ผมก็นั่งทบทวนถึงวันเก่าๆ ว่าเราก้าวมาไกลถึงขนาดนี้ได้ยังไงกัน จากคนไม่มีอะไรเลย ไม่มีแม้แต่ โอกาสที่จะยืนในสังคมที่คนอื่นเขาเป็นกัน นั่นล่ะ ทำให้ผมมองย้อนเรื่องราวกลับไปถึงวันนั้น วันที่ผู้หญิงคนนั้นมาเปลี่ยนชีวิตของผมไปตลอดกาล และมีคนอีกหลายๆ เข้ามาเป็นกุญแจ ไขประตูให้กับผม ขอเล่าทีละฉาก เริ่มต้นกันจาก ครูคนแรก ที่เอ่ยถ้อยคำนั้นเอาไว้ ผมยังคงจำได้แม่นยำจนถึงตอนนี้ ท่านอาจารย์ สุปรียา พิมพ์ทอง (ชื่อและนามสกุล ณ เวลานั้น) คนผู้นี้คือคนที่ผมพบเจอ ในวิชาคอมพิวเตอร์ ซึ่งตอนนั้นผมไม่มีความชอบอะไรเกี่ยวกับคอมเลย แค่ต้องการมาเรียน ปวส. ให้มันจบๆ ไปแล้วก็หางานทำ แบบว่า ทำงานห่าอะไรก็ได้ ขอให้มันได้เงิน มีกิน ไม่อดตาย คิดแค่นั้นจริงๆ ครับ อาจารย์ท่านพูดคำนึงขึ้นมา "ลูกศิษย์ครู จบไป 200 คน เขียนโปรแกรมได้ไม่ถึง 5 คน ไอ้พวกโปรแกรมเมอร์ คือพวกมีพรสวรรค์ ฉลาด สมองดี" เท่านั้นล่ะ ผมอยากวิ่งไปถามหน้าห้องเลยว่า อ. เมาหรือเปล่าครับ บ้าไปแล้วจบ 200 คน ทำได้ไม่ถึง 5 คน ในโลกนี้มันมีอาชีพอะไรยากขนาดนั้นวะ และนั่นล่ะ ทำ

โปรแกรมขายนหน้าร้าน 590 บาท

รูปภาพ
สำหรับร้านค้าใด ที่กำลังมองหาโปรแกรมขายหน้าร้าน หรือที่เรียกกันว่า POS : Point of Sale ในราคาเบาๆ ใช้งานง่าย และใช้ได้จริง ผมขอแนะนำโปรแกรม jPOS ครับ ของ PingpongSoft ซึ่งใช้งานง่ายมากๆ แถมยังอัพเดตฟรี ตลอดชีพ อีกด้วย ราคาถูกแสนถูกเพียง 590 บาท รายละเอียดต่างๆ ดูได้ที่ www.pingpongsoft.com หรือจะพูคลิปวีดีโอ แนะนำโปรแกรมได้ข้างล่างนี้ครับ โปรแกรมนี้พัฒนาโดยฝีมือคนไทย 100% ดังนั้นจึงเหมาะกับลูกค้าที่เป็นคนไทย เพราะเมนูต่างๆ รวมถึงการใช้งานจะเป็นภาษาไทย ทั้งหมดครับ วีดีโอ แนะนำโปรแกรม

ตามรอยโปรแกรมเมอร์ ถาวร ตอน ทบทวนเป้าหมาย

เป็นอีกวันที่ผมได้อยู่กับตัวเองตลอดทั้งวัน ไหนๆ ก็ว่าแล้ว ก็เลยมานั่งทบทวนเป้าหมายของตัวเอง มองย้อนกลับไปวันวาน จากก้าวแรก ที่เริ่มเดินมา ไล่เรื่องราวมาเรื่อยๆ จนถึงตอนนี้ เรา "ออกนอกเส้นทาง หรือเปล่า" นี่คือคำถามที่ผมถามตัวเอง คำตอบคือ เราไม่ได้ออกนอกเส้นทางไปไหนเลย แต่ตรงกันข้าม เรากำลังใกล้เป้าหมายเข้าไปทุกทีแล้ว นั่นคือสิ่งที่ผมดีใจ ก็เลยมาเขียนบันทึกเรื่องราวนี้เอาไว้ให้ผู้อ่านได้อ่านกันสักหน่อย ผมมีความฝันที่อยากสร้างระบบบางอย่าง ให้คนใช้กันเยอะๆ ทั้งโลก มีบริษัทซอฟท์แวร์เป็นของตัวเอง มีทีมงาน มีผู้คนรู้จักบริษัทของเรา ทั่วทุกมุมโลก มันอาจจะไกลเกินไป สำหรับหนุ่มน้อยที่เกิดอยู่ห่างไกลเมือง แต่แล้วเมื่อเข้าสู่ยุค internet ทุกอย่างล้วนเป็นไปได้ ตอนนี้ผมก็กำลังสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ มากมาย เพื่อสักวันหนึ่งจะไปถึงปลายทางฝันของตัวเอง อยากให้บรรดาน้องๆ นักศึกษา ได้ทบทวนเป้าหมายของตัวเอง ว่ามาเรียนทำไม เรียนเพื่ออะไร แล้วชีวิตตัวเองจะไปทางไหน เส้นทางที่จะไปนั้นจะไปได้อย่างไร ผมไม่อยากให้เรียนจบเพื่อเอากระดาษใบหนึ่งไปแปะฝาบ้าน แล้วคุยโวโอ้อวดสิบชาติ ไม่นานเกินรอ สักวันห

ตามรอยโปรแกรมเมอร์ ถาวร ตอน พัฒนา jPOS ไปอีก

รูปภาพ
วันนี้ไม่มีเรื่องเล่าอะไรมากมายครับ ผมเพียงแค่อยากนำเรื่องการพัฒนาโปรแกรมของผมมาเล่าให้ฟัง หลังจากได้ทำการปล่อย version ล่าสุดไปเมื่อวาน ลูกค้าพากันอัพเกรตเพียบ และร้องขอฟีเจอร์ใหม่ๆ เข้ามาเพียบ วันนี้ผมก็เลยนั่งทำส่วนของส่วนลด เขียนโค้ดไปเรื่อยๆ ในที่สุดก็เสร็จเรียบร้อยครับ เลยเอาหน้าจออันสวยงามนี้มาฝากกัน ได้แต่หวังว่าวันหนึ่งมันจะก้าวล้ำไปสู่ระดับ Enterprise เป็นผลงานที่มีคนใช้กันทั่วโลก อยากให้ถึงวันนั้นเร็วๆ เหมือนกัน แต่คงต้องใจเย็น อดทนรอให้เป็น และพัฒนาอย่างต่อเนื่องไม่หยุดนิ่ง ที่สำคัญคือผมมีแผนพัฒนาโปรดักในอีกหลายๆ ตัว แต่คงต้องทำกันไปทีละตัวเพราะรายละเอียดภายในมันเยอะมาก โดยเฉพาะการใช้งานจริงๆ จะพบว่ามีเรื่องที่ต้องปรับเพิ่มเล็กๆ น้อยๆ ตลอดเวลา เพื่อให้รองรับผู้ใช้งานจำนวนมาก และระบบต้องเสถียร

ตามรอยโปรแกรมเมอร์ ถาวร ตอน ผ่านพ้นไปด้วยดีกับ Android App ง่ายๆ

รูปภาพ
วันนี้นึกสนุกเลยลองทดสอบเขียน Custom Toast ใน Android App เพื่อลับคมฝีมือสักหน่อย งมไปงมมา หลายวิธี ในที่สุดก็ได้หนทางให้โค้ดโล่งสะอาด และเขียนง่ายๆ ครับ ก็ไม่มีอะไรมากมาย แค่อยากนำภาพความประทับใจวันนี้มากฝากแฟนคลับให้ได้ชมกัน เพื่อจะได้รู้ว่าผมไม่ได้หายไปไหน ยังคงอยู่ในโลกไอทีเหมือนเดิม และแอบลับคม ฝึกวิทยายุทธ พร้อมสร้างสรรค์ผลงานอย่างต่อเนื่องครับผม ง่ายๆ และได้ผลจริง

ตามรอยโปรแกรมเมอร์ ถาวร ตอน สิ้นศรัทธาการศึกษาไทย

ขออภัยด้วยครับหากบทความต่อไปนี้ แทงโดนหัวใจของใครเข้าอย่างจัง แต่ผมจำเป็นต้องเขียนมันขึ้นมา เพราะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง และผมพยายามที่จะเปลี่ยนแปลง ระบบการศึกษา แนวคิด ของคนระดับสูง มานานแสนนาน ขอย้อนเวลากลับไป เมื่อปีที่แล้ว ผมได้ทำการติตด่อประสานงานร่วม MOU กับสถาบันการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยไปหลายแห่ง ไม่ขอเอ่ยนามนะครับ เพื่อที่ผมและทีมจะไปจัดอบรมให้ความรู้ด้านการเขียนโปรแกรม หรือด้านเทคโนโลยีอะไรใหม่ๆ แก่บรรดานักศึกษา ผู้อยู่ในห้องสี่เหลี่ยมจนไม่รู้ว่าโลกข้างนอกเป็นอย่างไร เอาล่ะ และเราก็ได้ร่วมกับหลายๆ สถาบัน มีการไปจัดอบรมให้ ครั้งนึงก็ 3 - 5 วัน ไม่คิดค่าใช้จ่าย ไม่มีค่าตัววิทยากร ขอแค่ที่พักและค่าน้ำมันรถ กิโลเมตรละ 4 บาท ขาดทุนแบบเห็นๆ เจ็บตัวเห็นๆ แต่ผมก็ทำ เพราะอยากให้โอกาสกับน้องๆ หลายคนที่อยู่ในระบบมหาวิทยาลัย พวกเขาเหล่านี้คืออนาคตของชาติในวันหน้า เมื่อเวลาผ่านไป หลายๆ แห่งก็ล้มเลิกโครงการ ด้วยเหตุผลมากมายที่ไม่รู้คิดได้อย่างไร ทั้งที่ผมไม่ได้เอาค่าตัววิทยากร ไม่ได้ไปกระทบกับงบประมาณ หรือเบียดเบียนเวลาเรียนของเด็กเลย เพราะการอบรมเราใช้วันหยุดก็ได้ วันที่ทั้งสอ

ตามรอยโปรแกรมเมอร์ ถาวร ตอน ปราบ ADT เรียบร้อย

รูปภาพ
หลังจากสู้รบกับไอ้ ADT : Android Development Tool นานกว่า 6 ชั่วโมง ในที่สุดผมก็ปราบมันได้เรียบร้อย ปัญหาแรกเลยโดนมันฟ้อง NullPointerException ทั้งที่ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย แค่สร้างโปรเจค Hello World มันก็เจ้งละ เอาวะ คิดว่าคงเป็นที่ ADT มันมีปัญหาแน่นอน เลยทำการโหลด Eclupse Luna และลง SDK, ADT ใส่เข้าไปเอง config มันเองทั้งหมด โอเค ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี แต่ เรื่องยังไม่จบ มันสร้าง Project ไม่ได้เลย ติด Error NullPointerException เหมือนเดิมเป้ะ ก็ทำการลง lib ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอีกเพียบ หมดเวลาโหลดไปครึ่งชั่วโมง (นี่ขนาดเนตที่หอเร็วมากนะ) หาทางแก้ไขนานมากๆ ในที่สุดก็พบว่าเป็นที่ JDK7 ที่มีอยู่ในเครื่อง Mac ที่ใช้ตอนนี้ เลยหารุ่น JDK 6 มาลง กว่าจะหาได้อีก โอ้วว แม่เจ้า ทำไมไม่มีให้โหลดวะ ต้องหากันอย่างลำบาก พอหาพบก็ติดตั้งลงใน mac ทันที เหมือนเรื่องจะจบ เจอปัญหาต่ออีกว่า มันมองไม่เห็น JDK 6 ที่ลงไปล่าสุด เอ้ยยย ผมต้องลบของเดิมที่มีในเครื่องออก ก็พิมพ์คำสั่ง sudo -rf ... เพื่อลบไฟล์ ก็เจอปัญหาอีกว่าไม่มีสิทธิ์ทำได้ ทั้งที่ sudo แล้ว และเครื่องนี้ก็ไม่ได้มีรหัสผ่านอะไร ก็ทำการค้นหาเ

ตามรอยโปรแกรมเมอร์ ถาวร ตอน ทดสอบ Genymotion

รูปภาพ
เป็นอีกวันที่เล่นเอามึนไปพอสมควร หลังจากโหลด Genymotion มาลงแล้ว ทุกอย่างก็ปกติดีไม่มีปัญหาอะไร มาติดตรงโหลด ADT มาแล้วใช้งานไม่ได้เลย สร้าง Project ไม่ได้ จะ error NullPointerException ตลอด ไม่รู้เป็นอะไรของมัน ผมก็งง เพราะปกติโหลดมาก็ใช้ได้ทันที สุดท้ายหลังจากสู้รบนานแสนนาน ก็ลองโหลด Android Studio มาเล่น ทดสอบ ผ่านไปด้วยดี อ้าว เฮ้ย แต่ว่าผมไม่ค่อยชอบตัวนี้เพราะมันสร้าง Project ช้ามาก และจะรัน หรือทำอะไรแต่ละทีมันช้าเอาเรื่อง ทั้งที่ตอนนี้เครื่องผมเร็วมากแล้วนะ แต่ก็เอาเหอะ พรุ่งนี้จะหาทางสู้รบปรบมือกับ ADT ต่อ ต้องฝ่ามันไปให้ได้ ฮ่าๆๆๆ ว่าแล้วก็ไม่ลืมที่จะเอารูปผลงานค่ำคืนนี้ได้ชมกันครับ หน้าจอเริ่มต้นของ Genymotion ทดสอบแอพ ผ่านไปด้วยดี

ตามรอยโปรแกรมเมอร์ ถาวร ตอน พัฒนาโปรแกรม jPOS ก้าวไปอีกขั้น

รูปภาพ
วันนี้เป็นเรื่องเล่าสบายๆ ครับ ผมตื่นเช้ามาก็พาแฟนไปซื้อโทรศัพท์เครื่องหนึ่ง เพราะเครื่องเดิมเจ้งแล้วเรียบร้อย จากนั้นก็ไปหายาย อยู่ด้วยกัน ทานข้าวกัน พอตกเย็นหน่อยก็เอาเครื่องปริ้นไปซ่อม และไปตีปิงปอง วันนี้เหนื่อยมาก เพราะไม่ค่อยได้ซ้อมทำให้ร่างกายล้าเร็วมาก ปวดหัวไหล่เลยทั้งที่เล่นไปแค่ 2 เกมส์ (ปกติเล่นได้วันละเกิน 10 เกมส์) กลับมาห้อง ก็เลยอยู่ว่างๆ เปิดโนตบุคมาเขียนโค้ดระบบ jPOS ร้านค้าปลีก ค้าส่งผมต่อ เพื่อพัฒนาในส่วนของหน้าจอการขายให้สะดวกยิ่งขึ้น และออกใบเสร็จแบบครึ่ง A4 แนวตั้งได้ เขียนมาเขียนไป ก็เจอปัญหาเล็กน้อยในเรื่อง Bootstrap Modal Dialog แต่ก็พยายามค้นจาก Google เพราะผมต้องการจะสั่งงานมันให้เปิด ปิด ด้วยการสั่งผ่าน javascript ผมก็ไม่คิดมากเอาแบบตีกินเลย สั่งผ่าน trigger ของ jQuery เสมือนว่าเรากดปุ่ม เปิด ปิด ด้วยเมาส์ ฮ่าๆๆ และแล้วปัญหาต่างๆ ก็ผ่านพ้นไปด้วยดี ต่อไปจะเป็นการพัฒนาส่วนอื่นต่อ โดยจะไปเก็บส่วนของ Dialog ให้เป็น Modal ทั้งหมด เอาล่ะครับ สำหรับวันนี้ผมมีภาพโปรแกรมมาให้ได้ชมกัน ขอขอบคุณแฟนคลับทุกคนที่ยังติดตาม และห่วงใยผมอยู่เสมอ ขอบคุณครับ หน้าจอทอนเง

ตามรอยโปรแกรมเมอร์ ถาวร ตอน นาทีชีวิต

เมื่อวาน ผมเดินทางกลับจาก กรุงเทพ มายังอุบล ระหว่างทางช่วงเส้นทางลำตะคอง ขณะที่ผมกำลังขับขึ้นเลนขวาเพื่อแซงรถเลนกลาง ตอนนั้นความเร็วรถประมาณ 120 แล้วจู่ๆ ก็มีรถกระบะจากไหนไม่รู้ขับเข้ามาเบียดผมใส่เกาะกลางถนน จนรถผมเป็นรอยขูด แบบว่า มันเข้ามาชิดรถผมเลย เบียดกันแบบระยะประชิด (ไม่รู้เขาหลับใน หรือว่ายังไง) ตอนนั้นรถผมเริ่มเสียหลัก ส่ายไปมา คิดว่า วันนี้ไม่รอดแล้วแน่เลย เพราะเป็นจังหวะลงเขาด้วย คิดเลยว่า ต้องนำพาชีวิตของผมและโฮป กลับบ้านไปหาคนที่รออยู่ให้ได้ เราจะต้องไม่ตาย ด้วยสติก็พยายามประคองรถไม่ให้เสียหลักไปมากกว่านั้น แล้วรถกระบะคันนั้นมันก็รีบขับหลบหนีหายไป ยังไม่ทันได้ดูป้ายทะเบียนเลย ไม่งั้นผมแจ้งความเอาเรื่องเลยนะเนี่ย สุดท้ายก็รอดตัวไป และขับรถกลับมาเรื่อยๆ จนถึงช่วงจังหวัดบุรีรัมย์ ผมเริ่มมีอาการไม่ดี เหมือนจะเป็นไข้ ก็เลยกินยาแล้วมาจอดนอนที่สุรินทร์ ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วค่อยเดินทางกลับ ในที่สุดก็กลับมาถึงอุบลโดยปลอดภัย เวลา 3 ทุ่ม แล้วก็ดูสภาพรถ เป็นรอยขูดเลย (ขูดกับเกาะกลางถนน) วันจันทร์นี้จะเอาเข้าไปให้ประกันเขาดูสักหน่อย ได้ใช้บริการซะที ฮ่าๆๆ สำหรับการเดินทางไปเป็น

ตามรอยโปรแกรมเมอร์ ถาวร ตอน เงินทองของนอกกาย

รูปภาพ
ก่อนอื่นผมขอออกตัวก่อนเลยครับว่า บทความที่ผมจะเขียนต่อไปนี้ ไม่ได้มาโอ้อวด หรือคุยโว เรื่องเงินๆ ทองๆ อะไรทั้งสิ้น แต่ผมอยากให้หลายคนได้มองอีกมุม ซึ่งเป็นส่วนที่หลายต่อหลายคนในสังคมทุกวันนี้ มองข้ามมันไป หรือละเลยมันไป บทความนี้ผมอยากให้ผู้อ่านได้ทบทวน ถึงเรื่องราวบางอย่าง ว่าแล้วก็เริ่มกันเลยดีกว่า ช่วงตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผมทำงานประจำ ยาวนาน วันแล้ววันเล่า เพื่อหวังแค่เพียง อยากจะมีอนาคตที่ดี มีชีวิตที่ดีขึ้น ทำงานหนักสารพัด แต่แล้วในที่สุด ชีวิตมันก็ไม่ได้เป็นในแบบที่เราคิดหวังเอาไว้ ก็ยังคงอยู่ได้แค่เดือนชนเดือนเท่านั้นเอง จนกระทั่งได้เริ่มลาออกมาก่อตั้งบริษัทตัวเอง รับเขียนโปรแกรม ทำโน่น นั่น นี่ สารพัดไปหมด สิ่งที่ได้พบก็คือ มีรายได้เพิ่มขึ้นกว่าตอนทำงานประจำ แต่สิ่งที่หายไปคือเวลา และสุขภาพ ผมเริ่มไม่ค่อยได้พักผ่อน ไม่ได้ออกกำลังกาย ร่างกายเจ็บป่วยบ่อยๆ และไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง ตอนนั้นน้ำหนักเหลือไม่ถึง 60 เรียกได้ว่าผอมเลยล่ะ มันเป็นช่วงที่ลุยหนัก ทำงานหนักมาก ในที่สุด ผมก็ต้องค้นหาคำตอบอะไรบางอย่าง ว่าเราวิ่งหางิน เพื่อสะสมมัน แต่ทำไมสุดท้าย เราก็ไม่ได้มีในแบบที่อยากจะมีจ

ตามรอยโปรแกรมเมอร์ ถาวร ตอน สอน yii framework อย่างมันส์ ที่นครปฐม

รูปภาพ
มาถึงบลอกนี้แล้วครับ ผมอยากเล่าเรื่องราวอันแสนสนุกให้ได้ฟังกัน เมื่อคืนทีมงานเจ้าหน้าที่ ของ สสจ. นครปฐม พาผมไปทานข้าวอร่อยมาก และได้ไปกินไอศครีมลอยฟ้า (โยนขึ้นฟ้า แล้วรับ) กลับมาก็เข้าห้องพัก และทำการเขียนโค้ด ทดสอบการนำข้อมูลจากฐานข้อมูลมาแสดงผลเป็น กราฟ กว่าจะได้เล่นเอาสาหัสมาก เพราะแค่ทำการเขียน SQL ก็ปาไปเกือบ ชม. ละ จากนั้นเอาค่าที่ได้มาแตกเป็น Array และจัดเรียงให้เป็น String อีก (ตามแบบที่ต้องการ) กว่าจะได้ก็ต้องให้โฮปมาเขียนต่อในช่วงท้าย เพราะสมองตันแล้ว พอถึงตอนเช้าก็ทำการเขียนโปรแกรมต่ออีกเล็กน้อย และทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดีครับ ออกกราได้ทุกคน และ lock menu ได้แล้วด้วย สุดยอดจริงๆ จากนั้นตบท้ายการอบรมด้วยการพาเขียนระบบ Login เพื่อให้ผู้เข้าใช้งาน เห็นเฉพาะข้อมูลของหน่วยงานตัวเอง และนี่คือภาพบรรยากาศอบรม บางส่วนครับ นำมาฝากแฟนคลับ ถึงแม้ผมจะหายตัวไปจาก เฟสบุค แต่ก็ยังอยู่ที่เดิม คอยบอกเล่าเรื่องราว ต่างๆ ไว้ให้รับชมกันอยู่เสมอ

ตามรอยโปรแกรมเมอร์ ถาวร ตอน พัฒนาโปรแกรม jPOS อย่างต่อเนื่อง

รูปภาพ
วันนี้มีบทความมาเขียนฝากไว้ให้แฟนคลับได้อ่านกันครับ ผมกำลังพัฒนาโปรแกรม jPOS ส่วนของหน้าจอการขายสินค้า ปรับปรุงใหม่จากเดิมที่เปิดหน้าต่าง เลือกสมาชิกร้าน กับเลือกสินค้า มันจะเป็น modalDialog ของทาง javascript แต่ในบาง browser ก็มีปัญหาเช่น ถูกปิดกั้น popup หรือคำสั่งไม่ทำงาน ซึ่งตอนนี้ผมได้ทำการแก้ไขโค้ดนั้นแล้วเรียบร้อย โดยทำเป็น internal Dialog ของ Bootstrap ก็เลยนำภาพหน้าจอมาฝากแฟนคลับ สำหรับโปรแกรมนี้ผมตั้งเป้าไว้ไกลมาก อยากให้เป็นโปรแกรมที่มียอดผู้ใช้งานถึงแสนคน ก็ต้องยอมรับว่า ทุกอย่างต้องใช้เวลา เพื่อไปถึงปลายทาง เอาล่ะครับ ก่อนนอนคืนนี้ ขอฝากไว้ว่า โปรแกรม jPOS ของผม จะออกเวอร์ชั่นใหม่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ซึ่งก็เก็บฟีเจอร์ต่างๆ ที่ลูกค้าแนะนำใกล้หมดแล้ว (ส่วนข้ออื่นๆ บางข้อก็ยกไปเวอร์ชั่นถัดไปอีก) หวังว่าจะได้เห็นผลงานผม ในระดับโลก ขอบคุณครับ

ตามรอยโปรแกรมเมอร์ ถาวร ตอน บันทึกการเดินทางสอน Yii Framework ที่ สสจ. นครปฐม

รูปภาพ
ช่วงวันที่ 1 - 5 กันยายน ผมได้รับเชิญเป็นวิทยากรสอน Yii PHP Framework ให้กับโปรแกรมเมอร์ของ สสจ. นครปฐม และจังหวัดอื่นๆ ในเขตนี้ เป็นอีกประสบการณ์หนึ่งที่สนุกมากครับ ได้รับการต้อนรับอย่างดี ผมขอเล่าเรื่องราวการเดินทางครั้งนี้ไว้ในบลอกให้แฟนคลับได้ติดตามอ่านกันนะครับ ผมและทีมงาน (น้องโฮป) ออกเดินทางออกจากอุบลราชธานี วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม 2557 เพื่อมาสอนที่ กรุงเทพ ณ ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ พอจบภารกิจตรงนั้น วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม เราก็ออกเดินทางมุ่งหน้ามายัง นครปฐม โดยขับรถผ่านทางเส้น ตลิ่งชัน (ขับรถผ่าน บ. ที่ผมเคยทำงาน) พอมาถึงก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากคุณ บุญญรัตน์ เลี้ยงข้าวไปหนึ่งมื้อ อร่อยมาก แม้ว่าฝนจะตกก็ตาม จากนั้นก็เข้าห้องพัก และวันต่อมาก็เริ่มทำการสอน ก็เริ่มกันตั้งแต่ปูพื้น PHP OOP และเน้นหนักเรื่องของ Array รวมไปจนถึงพาติดตั้ง และใช้งาน Yii Framework พอวันต่อๆ มาเนื้อหาเริ่มเข้มข้น จัดหนักเรื่อง Database และใช้ฐานข้อมูลจริงของทาง สสจ. (เล่นแค่บางตาราง) และเริ่มเน้นด้านทิป เทคนิคต่างๆ มากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะทำการสอน ผู้เรียนเองก็มีโจทย์ มีคำถามตลอด ทำให้ทีมวิทยากร ตื่น

ทานข้าวเช้า ก่อนสอน

รูปภาพ
วันนี้มีภาพมาฝากแฟนคลับ ก่อนที่ผมจะทำการถ่ายทอดวิทยายุทธ yii framework

อำลา เฟสบุค

ณ วันนี้ 31 สิงหาคม 2557 เป็นวันสิ้นเดือนสิงหาคม พอดี ผมตัดสินใจเลิกเล่นเฟสบุค แบบถาวร คือยกเลิกบัญชีนี้ไปเลย ทั้งที่สร้างมาอย่างลำบาก เพื่อนสองพันกว่า กลุ่มที่สร้างไว้มีสมาชิกหมื่นคน แต่ ผมก็เตรียมแอดมินกลุ่มคนใหม่ไว้แล้ว ด้วยเหตุผลหลายๆ ประการ ที่ทำให้ต้องเลิกเล่นเว็บนี้ ซึ่งผมอาจเป็นคนส่วนน้อยในยุคนี้ที่ไม่มีเฟสบุค หลายๆ คนคงน้อยมากที่จะไม่มีบัญชีของ บ.เฟสบุค เรื่องราวการติดตาม ความคืบหน้าสิ่งต่างๆ ของผม ผมจะเขียนเป็นบลอกเอาไว้ให้แฟนๆ ได้ติดตามกันต่อไป ถึงแม้ผมจะเลิกเฟสบุค แต่ก็ยังไม่ได้เลิกอุดมการณ์ที่เดินมา ยังคงรัก และคิดถึงทุกๆ คนเหมือนเดิม หากมีอะไรก็ยังติดต่อกับผมได้ผ่านช่องทางอื่นๆ ครับ ไว้จะทยอยเล่าเรื่องให้ฟังเป็นระยะ ขอบคุณครับ ที่เข้าใจและติดตามผลงานมาโดยตลอด

Yii Studio เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว

รูปภาพ
หลายวันที่ผมเขียนโปรแกรมนี้ ในที่สุดมันก็เริ่มมีหน้าตา เป็นรูปเป็นร่าง และหลายๆ ส่วนก็ใช้งานได้แล้วครับผม เลยเอาหน้าจอมาฝากให้ได้ชมกัน

โลกของ CEO

หลายคนก็คงเคยได้ยินคำว่า CEO บางทีก็อาจจะนึกไปถึงภาพของคนใส่สูท ผูกไทน์ ใส่กางเกงสแลค ทำตัวหรูหรา พูดจาศัพย์แสง วางมาดเท่ แต่นั่นไม่ใช่ครับ ผมกำลังหมายถึงคนที่ทำกิจการตัวเอง ไม่ได้เป็นลูกน้องใคร มันก็คล้ายๆ กันกับ CEO ใน บ. ใหญ่ๆ หลายแห่งที่ถูกจ้างด้วยเงินมากมาย เพื่อให้มาทำตำแหน่งนั้น แต่ CEO ที่ผมจะพูดถึงนี้ คือคนที่ทำกิจการ หรือพูดง่ายๆ เป็นเถ้าแก่ ครับผม โลกของเรานี้มันก็มีคนแค่ 2 อาชีพเท่านั้นแหละ ผมไม่อยากแบ่งประเภทให้หลากหลายจนปวดหัว ซึ่งก็มีแค่ คนที่ทำงาน กับคนที่ทำเงิน ในโลกของคนทำงาน ก็จะมีอะไรมากมายเลยล่ะ ไม่ว่าจะเป็น เงินเดือน โบนัส สวัสดิการ ตำแหน่งงาน รถประจำแหน่ง เลขา เจ้านาย ความปลอดภัย ประกันสังคม วันหยุดพักผ่อน ท่องเที่ยวประจำปี เงินชดเชย ค่าเลี้ยงดูบุตร และอะไรต่อมิอะไรอีกมากมายจนเขียนไม่หมดครับ อันนี้ก็แล้วแต่หน่วยงานที่เราทำงานอยู่ ว่าเขาให้อะไรเราบ้าง ส่วนโลกของ CEO โลกที่ผมยืนอยู่ตรงนี้ ผมเรียกมันว่าโลกของคนทำเงิน มันไม่มีอะไรที่ผมเขียนมาทั้งหมดนั้นเลย ไม่มีจริงๆ ครับ โลกใบนี้มันไม่มีวันหยุด ไม่มีเงินเดือน ไม่มีโบนัส ไม่มีเลยสักอย่าง ที่โลกของคนทำงานเขามี

หนทางสู่ Programmer

ขอฝากถึงน้องๆ นักศึกษา หรือคนที่กำลังฝึกเขียนโปรแกรมครับ ถ้าอยากเป็นโปรแกรมเมอร์ ต้อง อย่าสู้กับ Compiler ครับ เวลาเขียนโค้ด ถ้ามันบอกว่า ผิด ก็ให้เชื่อมันว่าผิดจริงๆ ไม่ใช่เถียงหัวชนฝาว่าโค้ดกูถูก ไม่ผิดสักตัว แล้วก็ไปโทษที่ Compiler ว่ามันผิด อยากเก่ง ต้องให้ความผิดตกที่ตัวเองก่อน แล้วไล่ดู หาสาเหตุ บางครั้งมันก็ไม่ได้มาจากโค้ดที่เราเขียนหรอก แต่มาจาก สภาพแวดล้อมของการเขียน เช่น การ config ค่าของ server หรือการกำหนดตัวแปร PATH ต่างๆ ในการใช้งาน dll เสริม ดังนั้น เชื่อผมครับ อย่าสู้กับ Compiler มันบอกว่าผิด คือผิด เพราะถ้ามันไม่ยอมให้เรา compile โปรแกรมผ่านได้ โค้ดที่เขียนไป มันก็แค่ตัวอักษรที่เอาไปทำอะไรไม่ได้เลย เห็น Error ก็มองดูให้ดี อ่านข้อความที่มันบอก แปลดู ว่าคืออะไร แล้วทำการหาสาเหตุของปัญหาให้ได้ ตราบใดที่ ยังสู้ Compiler อยู่ เมื่อนั้นก็ยังออกจากกะลาใบน้อยไม่ได้

นักสู้ต้นแบบของผม

รูปภาพ
ท่านมหาแซม ถือได้ว่าเป็นอีกคนหนึ่งที่เป็นต้นแบบ ในการต่อสู้ชีวิตของผมเลยทีเดียว ผมเองทีแรกก็ไม่ได้รู้จักโดยตรง จำได้ว่าตอนที่ผมซื้อ computer เครื่องแรกในชีวิตนั้น ทางร้านแถมโปรแกรมชื่อว่า "มหาหมอดู" มาให้เลย และผมกับน้อง ก็ดูดวง เล่นโปรแกรมนี้กันแบบไม่ยอมหลับเลยทีเดียว ผ่านไปหลายปี ผมเขียนเว็บได้ เขียนโปรแกรมเป็นก็เลยทำเว็บชื่อว่า ubonit.com ออกแนว ทำวีดีโอ ถ่ายทอดวิชาความรู้ในการเขียนโปรแกรม แต่สุดท้ายก็ไม่รุ่ง โครงการนี้เจ้งไม่เป็นท่า เพราะมีสมาชิก 1 คนคือผมคนเดียว จากนั้นผ่านไปอีกซักพัก ก็ได้ทำเว็บชื่อ javathailand.com ขึ้นมาอีก โดยนำไอเดียเดิมมาทำอีกรอบ แต่คราวนี้แตกต่างออกไป เพราะมีระบบแต้มมาเกี่ยวข้อง เอามาเอาไปรุ่ง และก็รุ่งมากขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดวันหนึ่ง ท่านมหาแซม ก็มาเป็นสมาชิกเว็บผม และสมัครเป็น VIP Member จากจุดนั้นคือก้าวแรก ที่ทำให้เราได้คุยกัน วันเวลาผ่านไปราวๆ 2 ปีได้ ถ้าผมจำไม่ผิด วันหนึ่งผมก็พบ เฟสบุค ของท่านมหาแซม และผมก็แอดไป เพื่อขอเป็นเพื่อน ท่านก็ใจดี ตอบรับ และเราก็ได้คุยกันเรื่อยมา ทำให้ผมยิ่งมองเห็นความเป็นนักสู้ ความเป็นยอดโปรแกรมเมอร์ของท่าน อย่

ค้นหาตัวเอง

เป็นเวลานานหลายปี ที่ผมได้ออกเดินทางค้นหาตัวเอง เหมือนจะใช่ เหมือนจะพบแล้ว แต่ก็ยังไม่ใช่ซะทีเดียว วันนี้อยู่ว่างๆ เนื่องด้วยเป็นวันสงกรานต์เลยลองมาถามตัวเองเล่นๆ กับคำถามเดิม ที่เคยถามเอาไว้เมื่อนานมาแล้วว่า "เราอยากจะเป็นอะไร อยากทำอะไรกันแน่ ในชีวิตนี้" คำตอบมันดูสับสนไปหมด เหมือนกับว่าในแต่ละช่วงชีวิต มีสิ่งที่อยากทำแตกต่างกันไป ก็เลยลองเขียนดูว่าตัวเองทำอะไรได้บ้าง และได้ถึงระดับไหน แล้วชอบมันจริงๆ หรือเปล่า ผมตีปิงปองได้ ผลงานก็เคยได้เป็นแชมป์จังหวัด และเคยเป็นตัวแทนเขตการศึกษา แต่ลึกลงไปข้างในแล้ว ผมไม่ได้ชอบตีปิงปองเป็นชีวิตจิตใจ คือ เล่นก็ได้ ไม่เล่นก็ได้ ผมเขียนโปรแกรมได้ ผลงานก็มากมาย ประสบการณ์ทำงานมี การแข่งขันก็ได้ชนะเลิศ ประสบการณ์ทำงานก็เพียบ แต่ มองเข้าไปข้างในลึกๆ ผมไม่ได้ชอบเขียนโปรแกรมเลย อารมณ์เดียวกับตีปิงปอง ผมสอนคนได้ เป็นวิทยากร เป็นอาจารย์ได้ ผลงานก็เพียบ ปีนึงสอนไปหลายสิบคอร์ส แต่ลึกเข้าไปข้างในก็เช่นเคย ผมไม่ได้ชอบการสอนคน แล้วเราชอบอะไร แต่ละทางที่เดินไปก็ดูมันสำเร็จไปแล้ว เลยลองมองไปที่คนอื่นๆ ที่เขาสำเร็จ เขาจะรู้และโฟกัสตัวเอ

ปรับปรุง pingpongsoft เสร็จแล้ว

เขียน 2 วันจบเลย อิอิ www.pingpongsoft.com

สักวันหนึ่งนะ ไม่นานเกินรอ

รูปภาพ

เบื่อ

เบื่อกาก เบื่อพวกดราม่า เบื่อไปหมด

เปิดตัวแล้ว javathailand 2014

เหลือแค่ระบบหลังร้านเท่านั้น

คืบหน้าไปทีละก้าว

รูปภาพ

ความคืบหน้าการปรับปรุง javathailand ประจำวันนี้

รูปภาพ
วันนี้ทำได้เยอะเลยครับ ไม่ว่าจะเป็น การแสดงผลข้อมูลหน้าแรก การแสดงหน้า ตรวจสอบรหัสติดตามการจัดส่ง การ comment vdo การตรวจสอบสิทธิสมาชิก เพื่อให้ comment vdo การแสดงรายละเอียดหนังสือ การแสดงรายละเอียดแผ่น ซีดี การแปะ icon ต่างๆ เพื่อให้สวยงามขึ้นอีกหน่อย อันนี้คือหน้าตาที่ทำไว้ ณ วันนี้ครับ (วันหน้าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง ตามที่เห็นว่าสมควร)

ภารกิจจัดการ javathailand

เหลืออีกไม่มากแล้วสำหรับโปรเจคนี้ - ระบบคอมเมนต์ vdo - ระบบแสดงสินค้า - ระบบสั่งสินค้า - ระบบหลังร้าน ตั้งใจว่าจะทำให้เสร็จในอาทิตย์นี้เลย

เริ่มย้าย office

วันนี้ย้ายที่ทำงานไปตึกใหม่ ห้องใหญ่กว่าเดิม

เอาเฟสบุคออกไป

วันนี้ผมถอนเฟสบุคออกจาก iphone เรียบร้อย ลองดูว่าจะเป็นยังไงกับชีวิค

วิกกฤตการณ์โปรแกรมเมอร์ไทย แก้ได้จริง

วิกกฤตการณ์โปรแกรมเมอร์ไทย แก้ได้จริง หลังจากที่ผมได้ฟังคลิป ได้อ่านบทความ จากหลายแห่งเกี่ยวกับเรื่อง วิกกฤตการณ์โปรแกรมเมอร์ไทย ซึ่งมีหลายๆ เรื่องดังนี้ครับ 1. งานหนัก ทำงานตั้งแต่เช้า ยันค่ำ และต้องนำงานกลับไปทำที่ห้องพักอีก 2. เงินน้อย รายได้ไม่มากมาย หากเทียบกับต่างประเทศ 3. สุขภาพอ่อนแอ เพราะไม่ได้ออกกำลังกาย ขาดเวลาในการดูแลตัวเอง 4. งานเครียด เพราะมีกำหนดเวลาที่ชัดเจน และบางอย่างก็ซับซ้อนเกินไป หัวหน้าให้เวลาน้อย 5. ความรู้ใหม่ๆ มาให้ศึกษาตลอด ทำให้เรียนรู้ไม่ทัน เกิดความล้าหลัง 6. ไม่มีสาวในแผนกเดียวกัน หรือมีก็น้อยมาก (และส่วนมากก็ไม่สวย) เอาล่ะครับ ผมขอสรุป และพูดจากประสบการณ์ตัวเองแบบตรงๆ นะครับ ถ้าแรงไปก็ขออภัยจริงๆ เริ่มกันทีละข้อเลย (มันแก้ได้จริงๆ) 1. งานไม่ได้หนักเลยครับ ถ้าทำงานเป็น ก็ไม่ต้องหอบงานกลับมาทำต่อที่ห้อง พูดง่ายๆ คือถ้าเขียนโค้ดเก่ง รู้หลักการยุบโค้ด หรือนำของเดิมกลับมาใช้ ในหนึ่งวัน 8 ชม. นั้นคุณก็ไม่ได้ทำเต็มๆ 8 ชม. หรอกครับ เพราะเห็นเล่นไลน์ เล่นเฟสบุค เผลอๆ บางคนเล่นเกมส์ในเวลางานด้วย แสดงว่า งานไม่ได้หนักจริง 2. เงินน้อย อันนี้ถามกันตรงๆ ว่า ยังมีอาชีพ

กุญแจ ที่หลายคน อาจตามหาอยู่

เอาล่ะครับ ผมถูกถามมาบ่อยมาก ถึงมากที่สุด กับคำถามนี้ " ทำงานอะไร ชีวิตตอนนี้ ทำอะไรอยู่ รายได้มาจากไหน " ผมขอตอบให้ อย่างตรงไปตรงมา และสัญญาว่า มันคือความจริงทุกประการ เอาล่ะ มาเริ่มกันเลย ผมตื่นตอน เมื่อผมนอนอิ่ม บางวันเที่ยง บางวันบ่าย บางวันก็สายซักหน่อย แล้วจากนั้นผมก็อาบน้ำ แต่งตัว ออกไปทานข้าว หรือบางทีก็นั่งเขียนโปรแกรมเล่นค่อยไปทานข้าว จากนั้นก็เข้าออฟฟิศ เพื่อไปนั่งเขียนโปรแกรมเล่นต่อ หรือบางทีก็เขียนหนังสือ บางทีก็นั่งอ่านหนังสือเล่นไปเรื่อยๆ เอาล่ะ เหมือนว่า ผมไม่ได้ทำอะไร ใช่ครับ บ่ายแก่ๆ ก็เตรียมตัวไปซ้อมปิงปอง และจากนั้นก็ไปตีปิงปอง สองทุ่มกลับห้อง กินข้าว อาบน้ำ จากนั้นราวๆ 4 ทุ่ม ก็ไปร้านเหล้า เพื่อฟังเพลง กินเบียร์อร่อย แล้วก็กลับมานอน ใน 1 วัน ผมไม่ได้ทำงานให้ใครเลย ชีวิตแต่ละวัน ผมอยากกินอะไรก็ขับรถไปกิน อยากนอนผมก็นอน บางทีก็นอนกลางวันด้วย หรือบางวันก็อ่านหนังสือเล่นไปเรื่อยๆ แล้วไปดูหนัง คำถามสุดท้าย ที่หลายคนคาใจ "รายได้ผมมาจากไหน" มันก็มาจากการที่ผมทำโปรแกรม ไว้ขาย อ้อแล้วก็หนังสือที่ผมเขียน ก็มียอดขายทุกวัน ส่วนโปรแกรมตอนนี้ก็มีค

Blog แรกของปี 2014 : เป้าหมายปีนี้

และแล้ววันเวลาก็เลยผ่านไปอย่างรวดเร็วมาก กับปี 2013 ที่ผมได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้มากมาย แต่ก็ทำได้ไม่ครบ ก็ยังดีหน่อยที่ทำได้เกือบจะครบทุกข้อ มองย้อนกลับไป บางช่วงเวลาผมก็เล่นมากไป ทำตัวเหมือนเด้ก บางทีก็จริงจังเกินเหตุ และที่สำคัญ หลายครั้งก็ก้าวพลาด เดินผิดเส้นทาง ทำให้เสียเวลา ในปีนี้ก็เลยขอตั้งเป้าหมาย และสัญญากับตัวเองว่า จะทำให้ได้อย่างครบถ้วน ทุกข้อ ทำเว็บ javathailand version ใหม่เป็น AJAX ทั้งหมด ทำระบบตัวแทนจำหน่ายสินค้าของ javathailand ทำเว็บ ubuclub.com ให้เสร็จ และโปรโมทให้คนรู้จัก ทำโปรแกรม jPOS 2014 ให้เสร็จสมบูรณ์ และทำรายงานของพี่ดรีม ให้เรียบร้อย ทำโปรแกรม jRoom 2014 ทำเว็บ pingpongsoft.com ใหม่หมด ให้เป็นระบบ passive income เขียนหนังสือ Yii Workshop jPOS และตีพิมพ์ออกจำหน่าย ทำเว็บศูนย์กลางของหนังสือ ในแบบ Online Digital and Passive Income ทำ VDO ลงใน Udemy 3 Course ทำ App JavaThailand ให้สมบูรณ์อลังการ ทำเว็บ pingpongtour.com ให้เสร็จ ทำโปรแกรม jCommerce 2014 ให้เสร็จ เขียน Blog ใน ManyBug.com 300 Blog ออกหนังสือ 5 เล่ม ในแบบ Online Digital ไม่มากม